ประเด็นคือ – ทีมพีอาร์การรถไฟฯ โพสต์คลิปอุทาหรณ์ หนุ่มวัย 19 ปี ซิ่งจักรยานยนต์ ซีบีอาร์ ฝ่าไม้กั้นทางรถไฟ คิดว่าพ้นขบวนแรก สุดท้ายไปพุ่งชนรถไฟอีกขบวนที่กำลังสวนมาอย่างแรง จนรถพังยับ ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 05.55 น. ของวันที่ 25 ธ.ค. 60 ได้มีเฟซบุ๊กที่ชื่อ ‘ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย’ โพสต์คลิปอุบัติเหตุ ขณะที่ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 21 กรุงเทพ-อุบลราชธานี กำลังวิ่งผ่านบริเวณยมราช และได้มีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบีอาร์ สีดำแดง ขี่ข้ามรางรถไฟ และไปชนรถไฟอย่างแรง ขณะที่คานเครื่องกั้นถนนยังลงมากั้นครบทุกต้น
https://www.youtube.com/watch?v=CDBzAEcNHsE&t=17s
ส่วนคนขี่ทราบชื่อคือ นายจีระพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุประมาณ 19 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส (จากการที่ถูกรถไฟทับและลากไป) และรถจักยานยนต์พังยับเยิน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ทั้งยังต้องหยุดจอดเคลียร์สถานการณ์นาน 19 นาที
ล่าสุด วันที่ 26 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุบริเวณแยกยมราช เขตดุสิต กทม. และได้สอบถามจากพนักงานการเดินรถ รฟท. ผู้ควบคุมสัญญาณและไม้กั้นถนน ณ วันเกิดเหตุทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้ปฏิบัติหน้าที่ปกติตามมาตรการของ รฟท. คือตรวจเช็คการจราจรบริเวณแยกยมราชด้วยสายตา และจากกล้องวงจรปิดจำนวน 6 ตัว เมื่อเปิดสัญญาณเตือนผู้สัญจรด้วยระยะเวลาหนึ่ง แล้วจึงให้สัญญานกับ จนท.ควบคุมรถไฟให้ผ่านได้
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ขับขี่ไม่รอให้ไม้กั้นเปิดเสียก่อน และไม่รู้ว่าจะมีรถไฟอีกขบวนสวนมา จึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยผู้ขับขี่ขับมาพร้อมแฟนสาว มีอาการบาดเจ็บสาหัส แขนและกระดูกซี่โครงหัก บริเวณใบหน้ามีบาดแผลฉกรรจ์ ถูกส่งตัวไปที่ รพ.คามิลเลียน ทองหล่อ จากในคลิปที่มีชาย 2 คนมาช่วยผู้บาดเจ็บนั้นทราบว่าเป็นเพื่อนกัน ซึ่งขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อ CRB เช่นเดียวกับผู้บาดเจ็บ แต่จอดรอหลังไม้กั้น เมื่อเห็นเพื่อนฝ่าไม้กั้นจนชนกับรถไฟ จึงทิ้งรถรีบวิ่งไปดึงตัวเพื่อนออกมาตามคลิป
ส่วนทางด้านความปลอดภัยในการสัญจรข้ามทางรถไฟ นายธนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ รฟท. บอกกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่า ตาม พรบ.จราจรทางบก ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อรถไฟผ่านไปแล้วและมีเครื่องหมายหรือสัญญาณให้รถผ่านได้ ผู้ขับขี่จึงจะขับรถผ่านไปได้
แต่กรณีนี้มีการฝ่าฝืน แม้รถไฟขบวนนี้แล่นมาด้วยความเร็ว 30-50 กม.ต่อชั่วโมง แต่จะไม่สามารถหยุดรถไฟกะทันหันได้ เนื่องด้วยเกิดแรงเฉื่อยจึงต้องมีการกั้นก่อนที่รถไฟจะมาถึง ด้านคดีความก็ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
อย่างไรก็ดี ทาง รฟท. ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เบื้องต้นทาง รฟท.ได้เข้าไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บแล้ว เชื่อว่าทางญาติเข้าใจดีว่าอุบัติเหตุเกิดจากสาเหตุใด พร้อมทั้งวิงวอนผู้ใช้รถใช้ถนนโปรดระมัดระวังและปฏิบัติตาม พรบ.จราจรทางบกและสัญญาณเตือนของทาง รฟท.อย่างเคร่งครัด ประกอบกับช่วงเทศกาลปีใหม่มีการเพิ่มการเดินรถไฟเพื่อรองรับผู้โดยสารที่จะกลับภูมิลำเนา หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นอาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าต่อผู้โดยสารท่านอื่น จึงขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ
