คืบหน้า ! นักเรียนขับไล่ครูสอนภาษาอังกฤษ รอผลสอบสวน

ประเด็นคือ –นักเรียนขับไล่ครูสอนภาษาอังกฤษออกจากโรงเรียน เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาทิ นุ่งกระโปรงสั้นมาก ใช้คำหยาบคาย เสี้ยมให้ครูในโรงเรียนแตกแยกกัน วันนี้ยังรอผลสอบสวนจากทางจังหวัดอยู่

หลังจากเหตุการณ์เมื่อวานที่ผ่านมา (25 ก.ย. 60) กลุ่มนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 20 ไม่ยอมเข้าเรียน ประท้วงถือป้ายขับไล่ครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ เหตุมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซ้ำสร้างความแตกแยกให้กับครูในโรงเรียน จนต้องขอลาออกและขอย้าย 20 คน ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรต้องลงมารับเรื่องและแก้ไข ในเบื้องต้นทางรองผู้ว่าฯ ได้ขอใช้อำนาจจังหวัดให้ครูคนดังกล่าวย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชุมพรนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (26 ก.ย. 60) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามกรณีดังกล่าวพบว่า บรรยากาศภายในโรงเรียนเป็นปกติดังเช่นทุกวัน โดยเมื่อเวลา 08.00 น. เหล่านักเรียนมีการเข้าแถวเคารพธงชาติ ปฏิญาณตนจะเป็นคนดีของแผ่นดิน เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีนักเรียนรุ่นพี่ ม.6 เป็นผู้นำกล่าว หลังจากนั้นมีครูฝ่ายปกครองได้พูดกล่าวในภาพรวมของการเรียนการสอน การดูแลกัน ก่อนจะเลิกแถวเข้าเรียนตามปกติ

ในขณะเดียวกัน ทางครูที่ได้ขอลาออกและขอย้ายไปที่อื่นก็ยังคงทำงานด้านเอกสารและสอนนักเรียนเป็นปกติ โดยครูท่านหนึ่งได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ครูทุกคนยังคงทำงานไปก่อน ส่วนหนังสือขอลาและย้ายออกนั้นได้เก็บหนังสือไว้ก่อน เพราะรอดูผลการตรวจสอบออกมาว่าเป็นอย่างไร แต่ขอยอมรับว่าทุกคนรักที่นี่มาก อยู่กับเด็กนักเรียนซึ่งมาจากหลากหลายพื้นที่ เป็นนักเรียนที่มีปัญหาทางครอบครัว และเด็กเหล่านี้เป็นนักเรียนประจำ ต้องดูแลเป็นกรณีพิเศษ ความรักความผูกพันเหมือนพ่อแม่ลูก

ครูสอนวิชาภาษาอังกฤษที่ถูกนักเรียนขับไล่

แต่การทำงานนั้นก็ต้องระวัง เพราะตราบใดที่คนที่เสียผลประโยชน์ คนที่ไม่ทำอะไร แต่คอยจ้องจับผิดคนอื่น ทุกคนมีโอกาสผิดพลาด ครูทุกคนจบสายครู แต่ต้องมาทำเอกสารหลักฐานการพัสดุ บัญชีรับจ่าย ซึ่งมีโอกาสผิดพลาดมาก และหากคนจ้องจับผิดแอบนำเอกสารสำคัญออกไปเพียงแผ่นเดียวก็ทำให้ชีวิตของความเป็นครู อาชีพของข้าราชการคนหนึ่งต้องพังพินาศไป ครูที่ยื่นหนังสือลาออกก็เป็นครูอัตราจ้างประจำปี จึงลาออกเพื่อไปหาที่ที่ดีกว่า ส่วนครูที่บรรจุเป็นข้าราชการ ก็ต้องขยับขยายไปที่ที่ดีกว่า ปลอดภัยกว่า

และที่สำคัญทำงานอย่างมีความสุขกว่าที่ที่จะมาทำงานแล้วต้องระวังตัว โดยเฉพาะคนจ้องจับผิดเป็นคนในพื้นที่ ส่วนคนที่ลาและย้ายนั้นเป็นคนต่างจังหวัด ไม่คุ้มที่จะมาแลกกับพวกที่จ้องจะทำร้าย จึงขอรอผลการสอบสวนที่จะออกมาว่าจะเป็นอย่างไรแล้วค่อยว่ากัน