
ศาลพิพากษาคดี จำคุกผู้บริหาร ‘เอวิเอ’ 9 ปี ในคดีที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ฟ้องฉ้อโกงขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 ที่ใช้การไม่ได้ นับโทษรวมกับ 2 คดีแรก
วันที่ 10 ต.ค. 61 ที่ห้องพิจารณา 4 ศาลแขวงดอนเมือง ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ศาลได้อ่านคำพิพากษา คดีฉ้อโกงเครื่องตรวจจับอาวุธ จีที200 หมายเลขดำ อ.133/2561 ที่พนักงานสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องบริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ผู้บริหารบริษัท เอวิเอฯ นางศศกร ปลื้มใจ และ น.ส.พันทวีทรัพย์ สุดยาใจ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับในความผิดฐานฉ้อโกง
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า พวกจำเลยได้ร่วมกันทุจริตหลอกลวง โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดข้อความซึ่งเป็นข้อความตามจริง โดยเสนอขายเครื่องตรวจจับอาวุธวัตถุระเบิดและยาเสพติดรุ่น จีที200 แก่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ผู้เสียหาย มูลค่า 6.8 ล้านบาท พร้อมกับอวดอ้างสรรพคุณว่าหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกก็ใช้อุปกรณ์ดังกล่าว จนผู้เสียหายหลงเชื่อ แต่เครื่อง จีที200 ที่จำเลยเสนอขายกลับไม่ได้มาตรฐาน จนไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้รับความเสียหาย โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด ริบของกลาง และคืนเงินจำนวน 6.8 ล้านบาทแก่ผู้เสียหายด้วย ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว

นายวรอรรถ สุนทรอภิชาติ ทนายความ
ศาลพิพากษาว่า จำเลยที่ 1-2 กระทำผิดตามโจทก์ฟ้องฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 (เดิม) ให้ลงโทษทุกกรรม โดยปรับบริษัทจำเลยที่ 1 กระทงละ 6,000 บาท รวม 3 กระทง เป็น 18,000 บาท ให้จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 3 ปี รวม 3 กระทง เป็น 9 ปี ให้นับโทษจำคุกจำเลยที่ 2 รวมกับคดี จีที200 ที่กองทัพเป็นผู้เสียหายรวม 2 สำนวนที่ศาลได้พิพากษาแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมให้จำเลยที่ 1-2 ชดใช้ค่าซื้อเครื่อง จีที200 แก่ผู้เสียหายรวม 6,800,000 บาท ริบของกลาง ส่วนจำเลยที่ 3-4 เป็นเพียงพนักงานบริษัท พยานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นตัวการร่วม ให้ยกฟ้อง









