
คลื่นลมแรงเรือประมงพื้นบ้าน ใน 4 อำเภอ จังหวัดจันทบุรี ไม่ได้ออกเรือหาปลามานานกว่า 5 เดือนแล้ว หวั่นเรืออับปาง ชาวประมงบางรายต้องออกไปรับจ้าง และดักลอบปูประทั่งชีวิตแทน
วันนี้ (20 ก.ย. 61) เวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามท่าเทียบเรือในพื้นที่ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี พบว่าในช่วงนี้ผลกระทบจากคลื่นลมแรงในทะเล ทำให้กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านที่ประกอบอาชีพออกเรือหาปลา และไดร์หมึกต้องหยุดออกทำการประมงมานานกว่า 5 เดือนแล้ว ส่งผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้านโดยตรง หลังต้องขาดรายได้ไป ทำให้ชาวประมงต้องออกไปรับจ้าง และดักลอบปูประทั่งชีวิตแทน
เนื่องจากไม่มีรายได้นำมาจุนเจือเลี้ยงครอบครัว นอกจากนี้ยังพบว่าเรือประมงขนาดใหญ่ใน อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง อำเภอนายายอาม และอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ต่างนำเรือมาจอดเทียบท่าบริเวณสะพานแหลมสิงห์ และสะพานปากน้ำแขมหนู เพื่อหลบคลื่นลมแรงรวมทั้งเพื่อรอดูสภาพอากาศ หากคลื่นลมสงบชาวประมงพื้นบ้านก็จะมีการนำเรือออกทำการประมงอีกครั้ง

ทั้งนี้เนื่องจากสภาพอากาศเป็นเช่นนี้ ยังมีทั้งฝนตกและคลื่นลมแรงทำให้ชาวประมงพื้นบ้านทั้งเรือเล็กและเรือใหญ่ ไม่กล้าเสี่ยงที่จะนำเรือออกจับสัตว์น้ำ เพราะกลัวคลื่นลมซัดเรืออับปาง และไม่คุ้มถ้าออกเรือไปแล้วจะได้สัตว์น้ำมาขายหรือไหมอย่างไร และเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากจากการเดินเรือชาวประมงพื้นบ้านใน 4 อำเภอ ได้เฝ้าติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะออกทะเลหาปลาอีกครั้ง

ด้าน นายบรรลัง ริมราง อายุ 53 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน ตำบลบางกะไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ในช่วงนี้ตนและเรือประมงพื้นบ้านทั้งหมดในพื้นที่ อำเภอแหลมสิงห์ ไม่สามารถที่จะนำเรือออกจับสัตว์น้ำในทะเลได้ และได้มีการนำเรือมาจอดเทียบท่าหลบคลื่นลมมานานกว่า 5 เดือนแล้ว ทำให้ตนต้องขาดรายได้ไป ส่วนชาวประมงพื้นบ้านคนอื่นต่างก็ออกไปรับจ้างและดักลอบปูขายแทน เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ก็ไม่มีรายได้นำมาจุนเจือเลี้ยงครอบครัวนั้นเอง









