
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่าจะบังคับใช้กฎหมายการบริหารจัดการ การทำงานของคนต่างด้าวอย่างเข้มงวด หลังมีผลบังคับใช้เมื่อวานนี้ และหากพบนายจ้าง จ้างแรงงานฯ ไม่ถูกกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุด 1 แสนบาท ต่อ 1 คน
วันที่ 2 ก.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงแรงงานได้ปิดศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ หรือ OSS ระยะที่ 2 แล้ว โดยมีแรงงานข้ามชาติเมียนมา กัมพูชา และลาว เข้าสู่ระบบถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านการจัดทำทะเบียนประวัติและขออนุญาตทำงานกว่า 1,187,000 คน แบ่งเป็นเมียนมากว่า 770,000 คน กัมพูชากว่า 350,000 คน และลาวกว่า 59,000 คน

พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่า จะเข้มงวดในการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารจัดการ การทำงานของคนต่างด้าว ปี 2560 และลงโทษคนที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยแก้ไขโทษของแรงงานข้ามชาติที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานผิดประเภท มีโทษปรับ 5,000 – 50,000 บาท และเมื่อชำระค่าปรับแล้วจะถูกส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และห้ามขออนุญาตทำงานภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับโทษ

ส่วนนายจ้างที่จ้างแรงงานข้ามชาติที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานผิดประเภท จะมีโทษปรับ 10,000 – 100,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน หากกระทำผิดซ้ำต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างแรงงานข้ามชาติทำงานเป็นเวลา 3 ปี
ขณะนี้มีแรงงานข้ามชาติทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 3.2 ล้านคน ทั้งนี้ หากผู้ใดพบแรงงานข้ามชาติทำงานผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองทะเบียนจัดหางานกลาง และคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews









