
รถตู้ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ร้องกรมขนส่งขอยกเลิกจีพีเอสจับความเร็ว 90 กม./ชม. หรือให้เพิ่มเป็น 110 ได้ ชี้ต้องเร่งเครื่องขึ้นเขา ทำให้ความเร็วเกินกำหนดจนโดนปรับเดือนละหลายพันบาท แถมตบท้ายขับ 90 ถึงช้าแล้วเพลีย
วันที่ 25 ก.พ. นายโสฬส พรมรักษ์ หัวหน้าชมรมรถตู้เชียงใหม่ พร้อมสมาชิกกว่า 50 คน รวมตัวกันที่สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบก ผ่านนางพรรณี พุ่มพันธ์ ผู้ตรวจราชการกรมการขนส่งทางบก รักษาการผู้อำนวยการขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้กรมสั่งปรับเพิ่มความเร็วระบบจีพีเอส

ตัวแทนกลุ่มรถตู้เชียงใหม่ กล่าวว่า สมาชิกชมรมรถตู้เชียงใหม่ที่มีหลายพันรายได้รับความเดือดร้อน หลังกรมการขนส่งทางบกมีระเบียบให้รถตู้ที่วิ่งให้บริการท่องเที่ยวต้องติดตั้งระบบจีพีเอสเพื่อตรวจจับความเร็ว ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งต่อมาปรากฏว่ามีโชเฟอร์รถตู้จำนวนมาก ได้รับหมายให้ไปเสียค่าปรับจากการใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนด
นายโสฬส กล่าวว่า สภาพถนนในภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นทางขึ้นเขาลาดชัน บางช่วงต้องใช้ความเร็วในการแซงมากกว่า 100 – 110 กิโลเมตร ประมาณ 1-2 นาที และ แต่ละวันต้องมีการแซงหลายครั้ง ซึ่งก็มีการขอความอนุเคราะห์ให้กรมการขนส่งอะลุ่มอล่วยให้ แต่ปรากฏว่ากรมการขนส่งทางบก กลับนำเวลารวมในการแซงแต่ละครั้งมาคิดรวมกัน ทำให้หลายคนโดนใบสั่งและต้องไปเสียปรับเดือนละหลายใบ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 พันบาท

ทั้งนี้ ทางชมรมได้ระบุข้อเรียกร้อง คือ
1. ขอยกเลิกการติดตั้งระบบจีพีเอสกับรถตู้โดยสารประจำทาง เพราะส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องที่ยวและการบริการเช่ารถตู้จากลูกค้า
2.ขอให้ขนส่งยกเลิกการอายัดต่อภาษี เนื่องจากบางรายไม่ทราบว่ารถตู้ของตัวเองขับเร็วเกินกำหนด เพราะจ้างคนขับแทนในบางวัน จึงเกิดปัญหาคนรับผิดชอบในการจ่ายค่าปรับ และ
3.หากไม่สามารถยกเลิกการติดตั้งจีพีเอสได้ ขอขยายการบังคับใช้ความเร็วจาก 90 เป็น 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยไม่เสียค่าปรับและอายัดการต่อภาษี และ ขอจ่ายค่าปรับในอัตราความเร็วเกิน 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปเท่านั้น

นายโสฬส ย้ำว่า การขับรถในอัตราความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากจะล่าช้าทำให้ถึงที่หมายไม่ตรงเวลา ยังทำให้คนขับอ่อนเพลียและง่วงนอนเพราะต้องใช้เวลานานขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่าการใช้ความเร็วในอัตรา 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ทำให้เกินอุบัติเหตุได้เช่นกัน
ด้าน นางพรรณี กล่าวว่า จะเสนอเรื่องร้องเรียนให้กรมการขนส่งทางบกเพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป ส่วนกรณีการถูกอายัดไม่ให้ต่อภาษีนั้นให้โชเฟอร์รถตู้แต่ละรายแจ้งข้อมูลให้ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ทราบเป็นรายบุคคลเพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลืออีกครั้ง









