ประเด็นคือ – กลุ่มชาวนาหลายตำบลใน อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ยืนหนังสือร้องเรียนถูกท่าข้าวแห่งหนึ่ง โกงเงินค่าขายข้าวเปลือก รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
วันที่ 10 ต.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนากว่าร้อยคน ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม จากนายธนพงษ์ บุญเรือง นายอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย สืบเนื่องจากช่วงประมาณเดือนเมษายน กลุ่มชาวนาพื้นที่ตำบลบ้านไร่ บ้านซ่าน และชาวนาหลายกลุ่มในอำเภอศรีสำโรง ได้นำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวได้ ไปขายให้กับท่าข้าวยูโฟ่ดอนโก โดยมีนางชมม์ชนก สงสัย และนายนันทวัฒน์ กร่ำพร้า ซึ่งเป็นสามีภรรยา เป็นผู้ประกอบกิจการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร ตั้งอยู่เลขที่ 1/5 หมู่ 5 ตำบลราวต้นจันทร์ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย
โดยทั้งสองคนมีพฤติกรรม เชิญชวนให้ชาวนานำข้าวเปลือกมาขายที่ท่าข้าวของตนโดยอ้างว่าจะให้ราคารับซื้อที่แพงกว่าท่าข้าวอื่น ทำให้ชาวนา หลงเชื่อ จึงนำข้าวเปลือกไปขายกันเป็นจำนวนมาก และหากนำมาขายและรับเงินสดในวันที่ขายเลยจะได้ราคาเกวียนละ 6,000 บาท แต่ถ้าหากไม่รับเงินสดภายในวันที่นำมาขาย รอมารับอีก 30 ถึง 40 วัน ก็จะได้เพิ่มอีก 500 บาท ต่อตันต่อเกวียน ชาวนาจึงหลงเชื่อเนื่องจากได้ราคาสูงกว่า แต่เมื่อนำมาขายแล้วผ่านไวถึงวันนัดกลุ่มชาวนากลุ่มนี้กลับไม่ได้รับเงินตามที่นัด รวมมูลค่าความเสียหายที่ชาวนาลงชื่อนำข้าวเปลือกมาขายทั้งหมดประมาณ 5 ล้านกว่าบาท
เมื่อชาวนากลุ่มนี้ตามทวงถาม เมื่อถึงกำหนดชำระเงินค่าข้าวเปลือกตามตั๋วที่ท่าข้าวออกให้ เจ้าของท่าข้าวยูโฟ่ดอนโก กลับผัดผ่อนไม่ยอมจ่ายเงินให้โดยอ้างไปต่างๆนานา กลุ่มชาวนาจึงไปร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอศรีสำโรง และมีการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกันหลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล ทางท่าข้าวยูโฟ่ดอนโก ก็ยังไม่ยอมจ่ายเงินให้อ้างว่านำเงินที่ขายข้าวเปลือกไปลงทุนซื้อพืชผลการเกษตรหมดแล้ว หมุนเงินไม่ทัน จนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 5 เดือนแล้ว ที่ชาวนายังไม่ได้รับค่าข้าวเปลือกจนถึงปัจจุบัน จึงไดรวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ แก่นายอำเภอศรีสำโรง เพื่อประสงค์ให้รับการปลดเปลื้องความทุกข์และความเสียหายที่ชาวนาได้รับโดยมีนายธนพงษ์ บุญเรือง นายอำเภอศรีสำโรง รับเรื่องร้องเรียน และกล่าวว่า ทาง อำเภอศรีสำโรง ได้จัดหาทนายความเพื่อฟ้องเจ้าของท่าข้าวยูโฟ่ดอนโก คดีข้อหาฉ้อโกง ต่อศาล และจะมีการไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 30 ตุลาคม 2560 ต่อไป
