ชาวนา จ.อุตรดิตถ์ หันมาปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาปรัง แก้ปัญหาภัยแล้ง

ชาวนา จ.อุตรดิตถ์ หันมาปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาปรัง แก้ปัญหาภัยแล้ง

ในประเทศ

เกษตรกร จ.อุตรดิตถ์ ปรับลดพื้นที่ทำนาปรังในช่วงหน้าแล้ง หันมาปลูกข้าวโพด-เลี้ยงสัตว์ หลังการทำนา แก้ปัญหาการจัดการน้ำ สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น

วันที่ 25 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสหกรณ์การเกษตรเมืองตรอน จำกัด อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าฯ จ.อุตรดิตถ์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การซื้อขายผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา เพื่อให้ชาวนาลดพื้นที่ปลูกข้าว โดยปลูกพืชทดแทนที่ใช้น้ำน้อย และมีรายได้มากกว่าการขายข้าว ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งให้มีแม่ข่ายในการรวบรวมผลผลิตข้าวโพด จากเกษตรกร เพื่อส่งขายให้กับผู้ประกอบการ ความชื้นร้อยละ 14 ขายกิโลกรัมละ 8 บาท ซึ่ง จ.อุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่ต้นแบบของโครงการดังกล่าว มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 3,432 ราย พื้นที่ 34,106 ไร่

นายสมชาย จงบัญญัติ เกษตรและสหกรณ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา เพื่อลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง ไม่ให้เกิดปัญหาบริหารจัดการน้ำ และเพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ซึ่งมีความต้องการกว่า 8 ล้านตัน/ปี แต่ผลิตได้เพียง 5 ล้านตัน/ปี ทำให้ต้องนำเข้าวัตถุดิบอื่นมาทดแทน ในส่วนของ จ.อุตรดิตถ์ ได้คัดเลือกพื้นที่เหมาะสมในเขตชลประทาน มีเกษตรกรร่วมโครงการ 3,432 ราย พื้นที่ 34,106 ไร่ ในส่วนของการตลาดนั้น ได้ใช้ระบบสหกรณ์ในการรวบรวมผลผลิต โดยมีสหกรณ์การเกษตรเมืองตรอน จำกัด เป็นแม่ข่ายในการรวบรวมผลผลิตข้าวโพดจากสหกรณ์การเกษตร 16 กลุ่ม ในพื้นที่ปลูกข้าวโพด

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ระหว่างสหกรณ์การเกษตรเมืองตรอน จำกัด และผู้ประกอบการค้าขายอาหารสัตว์ คือบริษัทกรุงเทพโปรดิวส์ จำกัด (มหาชน) เป็นไปตามนโยบายเมื่อมีการส่งเสริมปลูก ให้มีตลาดรองรับที่แน่นอน ในราคาขั้นต่ำที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ความชื้นร้อยละ 14 กิโลกรัมละ 8 บาท และ ความชื้นร้อยละ 30 กิโลกรัมละ 5 บาท ซึ่งทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น หากเทียบกับการทำนา

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง