
ตัวแทนชาวบ้านและ ผญบ.อำเภอโนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ บุกร้องศูนย์ดำรงธรรม ตรวจสอบเอาผิดนายอำเภอ หักหัวคิวงบค่าอาหารโครงการไทยยั่งยืนกว่าแสนบาท ทั้งอมเงินจัดงานของดีโนนสุวรรณ ชี้หากผิดจริงให้เอาผิดทั้งวินัยและกฎหมาย
วันที่ 10 ก.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านอำเภอโนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ให้ตรวจสอบเอาผิดนายอำเภอโนนสุวรรณคนปัจจุบัน โดยกล่าวหาว่านายอำเภอคนดังกล่าวมีพฤติกรรมทุจริตเงินงบประมาณโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล ที่ได้จัดสรรงบประมาณให้ทุกหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 200,000 บาท เพื่อให้แต่ละหมู่บ้านนำไปจัดทำโครงการตามความต้องการของแต่ละพื้นที่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน
โดยตัวแทนชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านที่เข้าร้องเรียนระบุว่า นายอำเภอได้หักหัวคิวค่าอาหารในการจัดเวทีประชาคมของแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งต้องจัดทั้งหมดหมู่บ้านละ 4 เวที ตามกำหนดแต่ละหมู่บ้านจะได้รับงบค่าอาหารเวทีละ 4,000 บาท ซึ่งก็มีการลงในใบเสร็จรับเงิน 4,000 บาท แต่กลับได้รับยอดเงินค่าอาหารจริงเพียง 3,500 บาท ถูกหักหัวคิวครั้งละ 500 บาท จากการสอบถามพบว่าทั้ง 56 หมู่บ้าน ใน อ.โนนสุวรรณ ถูกหักหัวคิวค่าอาหารในโครงการไทยนิยมยั่งยืนไปหมู่บ้านละ 2,000 บาท รวม 56 หมู่บ้าน เป็นเงิน 112,000 บาท

ทั้งนี้ ยังกล่าวหาว่านายอำเภอมีพฤติกรรมทุจริตเงิน จากการจัดงานประเพณีของดีโนนสุวรรณ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดงานจำนวนมาก ทั้งยังให้ผู้รับเหมาเช่าสถานที่ที่ว่าการอำเภอจัดงาน เพื่อขายสินค้าให้กับหน่วยงาน พ่อค้า ประชาชน เป็นเงินหลายแสนบาท แต่นายอำเภอกลับไม่ชี้แจงให้หน่วยงานและกรรมการผู้จัดงานได้รับทราบเงินรายได้จากการจัดงาน ทั้งไม่มีการนำเงินจากการจัดงานไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่อำเภอโนนสุวรรณ จึงอยากให้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการทุจริตจริงก็อยากให้เอาผิดทั้งทางวินัยและกฎหมาย
นายเจษฎา ตกุดเพชร ในฐานะตัวแทนชาว อ.โนนสุวรรณ กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือร้องเรียนเพราะอยากให้ทางจังหวัดตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีที่นายอำเภอหักหัวคิวค่าอาหารโครงการไทยยั่งยืน และเงินรายได้จากการจัดงานประเพณีของดีโนนสุวรรณ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านและประชาชนชาว อ.โนนสุวรรณ พร้อมให้ข้อมูลข้อเท็จจริง และหากผลการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็อยากให้ดำเนินการเอาผิดทั้งทางวินัยและกฎหมาย เพราะเป็นงบประมาณของแผ่นดินและเงินภาษีของประชาชน
ขณะที่ผู้แทนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดที่รับหนังสือร้องเรียน ก็จะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีการร้องเรียน โดยจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบภายใน 15 วัน
อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews









