
ชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ วิ่งหลบฝนในกระท่อม ก่อนถูกฟ้าผ่าจนสลบ 5 ราย จนท.เร่งนำส่ง รพ. ล่าสุดอาการดีขึ้น พร้อมเตือนเกษตรกรควรระมัดระวัง
วันที่ 18 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ได้เกิดฝนฟ้าคะนองอย่างหนักในพื้นที่ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะเกิดเหตุฟ้าผ่า บริเวณไร่อ้อยบ้านโคกกลาง ต.ห้วยหิน อ.หนองหงส์ เสียงดังสนั่น เป็นเหตุให้ชาวบ้าน จำนวน 5 คน เป็นชาย 4 คน และหญิง 1 คน ที่กลับจากตัดอ้อยแล้ว วิ่งเข้าไปหลบฝนในกระท่อม ใกล้กับบริเวณที่เกิดฟ้าผ่า ได้รับผลกระทบจนสลบไม่ได้สติทั้ง 5 ราย กระทั่งมีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงไปพบเห็น จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ นำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลหนองหงส์อย่างเร่งด่วน

โดยในจำนวนผู้บาดเจ็บ มีอาการสาหัส 3 ราย ถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ซึ่งขณะนี้ทั้ง 3 ราย อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ส่วนอีก 2 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหนองหงส์
จากการสอบถาม นายมงคล พรศรี อายุ 40 ปี หนึ่งในผู้เคราะห์ร้าย ได้เล่าถึงนาทีชีวิตว่า ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากตัดอ้อยกับภรรยา เพื่อจะกลับบ้านที่ ต.ห้วยหิน แต่ระหว่างทางเกิดฝนตกหนัก และฟ้าคะนอง เห็นมีคนเข้าไปหลบฝนอยู่ในกระท่อมข้างทาง 3 คน จึงตัดสินใจเลี้ยวรถไปจอดและวิ่งเข้าไปหลบฝนในกระท่อมเช่นกัน เพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่า แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงข้างกระท่อมอย่างรุนแรง จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัว ฟื้นอีกทีก็ถูกหามส่งโรงพยาบาลแล้ว โดยคิดว่าตนเองจะไม่รอดแล้ว จึงอยากจะเตือนภัยเกษตรกรที่จะออกไปทำไร่ทำนา ควรหลีกเลี่ยงหากมีฝนตกหนักหรือฝนฟ้าคะนอง เพราะอาจถูกฟ้าผ่าได้รับอันตรายถึงชีวิตได้

ด้าน นายตัลโจ ประเสวกา เจ้าหน้าที่ ชรบ. เล่าว่า ช่วงเย็นวานนี้ได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านถูกฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บหลายราย ตนจึงรีบขับรถไปตรวจสอบพร้อมกับ นายสนั่น คนชาญ ซึ่งเป็น ชรบ. อีกคน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน เมื่อมาถึงพบผู้บาดเจ็บนอนหมดสติอยู่ในกระท่อม 4 คน ส่วนอีก 1 คน ชักกระตุกอยู่ข้างกระท่อม จากนั้นจึงได้ร่วมกับหน่วยกู้ชีพฯ เร่งนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลหนองหงส์ ก่อนจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน
นายตัลโจ ยังบอกอีกว่า ช่วงที่เกิดพายุฝนเมื่อเย็นวานนี้ ได้เกิดฟ้าผ่าไล่เลี่ยกันถึง 3 จุด แต่อีก 2 จุดไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงอยากจะเตือนภัยชาวบ้านหรือเกษตรกรให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนกรณีที่มีผู้บาดเจ็บแม้จะไม่ได้อยู่ในที่โล่งแจ้ง แต่กระท่อมอยู่ในจุดที่เกิดฟ้าผ่า จึงได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่ถึงกับเสียชีวิต










