
ประเด็นคือ – ความคืบหน้ากรณี ชาวบ้านกว่า 20,000 คน เรียกร้องที่ดินทำกิน ล่าสุดยายทองคำรวบรวมเอกสารเตรียมยื่นเรื่องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
วันที่ 8 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ชาวบ้านกว่า 20,000 คน จาก 7 หมู่บ้าน 2 ตำบล ในเขตพื้นที่ อ.เมืองศรีสะเกษ ได้รวมตัวกันเรียกร้องขอที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เนื่องจากมีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินอยู่ในเขตพื้นที่สาธารณะประโยชน์โนนป่ายาง พื้นที่ 4,125 ไร่ มานานหลายชั่วยุคนแล้ว แต่ทางราชการได้ออกกฎหมายการเอาที่ดินบริเวณดังกล่าวไปเป็นที่สาธารณะประโยชน์ เป็นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ โดยที่ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะมีชาวบ้านอยู่อาศัยจำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านได้ร่วมกันลงชื่อเพื่อคัดค้านเรื่องนี้ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 11 ชุมชนโนนสำราญ ต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนางทองคำ ไชยชาญ อายุ 74 ปี แกนนำชาวบ้านที่เรียกร้องที่ดินทำกิน โดยนางทองคำ กำลังรวบรวมเอกสารหลักฐานที่มีอยู่จำนวนหลายแฟ้ม เพื่อทำการเรียบเรียงให้เป็นหมวดหมู่ ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มแรก นับตั้งแต่ครอบครัว ญาติพี่น้อง และชาวบ้านกว่า 20,000 คน ที่ได้มาอาศัยอยู่บริเวณโนนป่ายาง ตั้งแต่ปี 2462 พร้อมทั้งเร่งจัดทำรายงานการประชุมที่เป็นมติของชาวบ้านทั้งหมด ขอเรียกร้องโฉนดในที่ดินที่พวกตนอยู่อาศัยมานานกว่า 100 ปีแล้ว

นางทองคำ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รวบรวมเอกสารต่างๆ เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้รวบรวมรายชื่อชาวบ้านทั้งหมดที่อยู่ในเขตโนนป่ายาง เพื่อจะได้ส่งตัวแทนของชาวบ้านทั้งหมดไปเสนอเรื่องให้กับ นายธวัช สุระบาล ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกมติ 2 / 2539 ลงวันที่ 25 มี.ค.2539 ทั้งนี้ เนื่องจากมติดังกล่าวเป็นการลงมติที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากว่าชาวบ้านอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่นี้จำนวนมาก แต่กลับมาลงมติให้บริเวณที่ชาวบ้านอยู่อาศัยเป็นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์

นางทองคำ กล่าวต่ออีกว่า การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของตน เนื่องจากว่าตนต่อสู้เรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับความสนในเหลียวแลจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทำหนังสือไปยังส่วนราชการต่างๆ เรื่องก็เงียบหาย ทั้งที่มีเอกสารหลักฐานในการพิจารณาครบถ้วน แต่ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุใด ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจึงเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของประชาชน เป็นไปได้อย่างไร ซึ่งชาวบ้านอยู่กันมา 100 กว่าปีแล้ว แต่มาขีดเส้นบนแผนที่เอาที่ดินบ้านเรือนของชาวบ้านไปเป็นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ ตนขอฝากความหวังในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จาก ผวจ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขวัญใจชาวไทยผู้ยากไร้ เพื่อขอให้พิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยด่วน” เพราะหากว่าให้ชาวบ้านกว่า 20,000 คน ออกจากพื้นที่บริเวณนี้ ก็ไม่รู้ว่าชาวบ้านจะไปอยู่ที่ใด เนื่องจากว่าขณะนี้ป่าก็ไม่มีเหลือให้อยู่แล้ว









