ประเด็นคือ – เกิดเหตุรถเครนพลิกหัวลอยชี้ฟ้า ขณะทำการตัดกิ่งไม้ฉำฉาขนาดใหญ่อายุ 300 กว่าปี ซึ่งเป็นต้นไม้คู่บ้านคู่โรงเรียน จากการตัดสินใจของผู้อำนวยการโรงเรียนวัดคีรีวิหาร ชาวบ้านเชื่อเกิดจากปาฏิหาริย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ ทั้งนี้ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือต่อ สพฐ.ขับไล่ผู้อำนวยการ
วันที่ 3 พ.ย. 60 ชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้มารวมตัวกันที่หน้าโรงเรียนวัดคีรีวิหาร โดยติดป้ายไวนิลขับไล่นายปริญญา เดชทองคำ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดคีรีวิหาร หลังจากที่เมื่อวานนี้ นายปริญญาได้อนุมัติสั่งการจ้างผู้รับเหมามาตัดต้นไม้ฉำฉาขนาดใหญ่อายุ 300 กว่าปี ในรั้วโรงเรียนทิ้งโดยพลการ ไม่ได้มีการปรึกษาผู้นำท้องถิ่นหรือท้องที่ หรือปรึกษาคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐานของโรงเรียนปริญญา เดชทองคำ
จนเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 2 พ.ย. 60 ที่ผ่านมา รถเครนที่ใช้ตัดต้นไม้คันดังกล่าวเกิดการขับเคลื่อนตัวรถผิดพลาดทำให้พลิกหัวลอยชี้ฟ้า ซึ่งสังเกตเห็นได้ว่ากิ่งไม้ที่ตัดนั้นมีขนาดเล็กกว่ากิ่งอื่นที่ตัดไปก่อนหน้านี้มาก
https://www.youtube.com/watch?v=0t8bp5A5OXY
ทั้งนี้ตั้งแต่เกิดเหตุทางนายปริญญาไม่ได้ออกมารับผิดชอบหรือชี้แจงแต่อย่างใด จึงสร้างความความกดดันให้กับชาวบ้านได้รวมตัวกันทำหนังสือยื่นต่อ สพฐ. เพื่อสั่งโยกย้ายให้ออกไปจากโรงเรียนโดยทันที
และจากการบอกเล่าของชาวบ้าน ทราบว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้ได้ตัดต้นไม้ขนาดกลางในรั้วโรงเรียนเกือบหมดอ้างว่าปรับภูมิทัศน์ของโรงเรียน แต่มาครั้งนี้ถือว่าแย่เอามากๆ ที่สั่งให้ตัดต้นไม้ฉำฉาที่ปลูกมา 300 กว่าปีทิ้ง ทั้งที่ต้นไม้ดังกล่าวเป็นที่พักหลบร้อนของชาวบ้านและนักเรียน
ทางด้านนายเสน่ห์ ทองศักดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขากอบ กล่าวว่า ตนเองรับแจ้งจากชาวบ้านเขากอบว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกลาว ได้มำการตัดโค่นต้นไม้ อายุ 300 กว่าปี ซึ่งเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรในยามพักผ่อนของเด็กนักเรียนและประชาชน ซึ่งมองว่าผู้อำนวยการคนนี้ขาดวิสัยทัศน์ในการทำงาน ซึ่งตนเองในฐานะศิษย์เก่าและประชาชนที่อยู่ที่นี่ ยังไม่เคยเห็นใครมาทำอย่างนี้ และทำโดยพลการ ไม่ปรึกษาใคร จึงได้หารือกับชาวบ้าน นายอำเภอ รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่ขั้นพื้นฐานเขต 2 มารับเรื่องและมีมติว่าให้ผู้อำนวยการคนดังกล่าวย้ายออกจากโรงเรียนไป เพราะการทำงานที่ไม่โปร่งใส ทำงานไม่ร่วมกับชุมชน ซึ่งทุกวันนี้สร้างความเข้าใจผิดกับชาวบ้านว่า นายก อบต.เป็นคนสั่งตัดจนกลายเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ในขณะนี้ หากมีผู้อำนวยการโรงเรียนแบบนี้อยู่ ชาวบ้านก็ไม่ยินยอมให้บุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียนนี้ได้
ส่วนทางด้านนายสมบูรณ์ อ่อนรู้ที่ อดีตนักการเก่าโรงเรียนคีรีวิหาร กล่าวว่า ชาวบ้านไม่พอใจกับการกระทำครั้งนี้เพราะต้นไม้นี้มีอายุมากแล้ว รู้สึกเสียดาย ตอนตนเองทำงานอยู่ที่นี่ตนเองทำได้เพียงรานกิ่งต่ำ ๆ เท่านั้นเพื่อให้เด็กนักเรียนสามารถเล่นกีฬาได้สะดวก
