“ถวิล พึ่งมา” รอด! ศาลพิพากษาคดีทุจริต สจล. 689 ล้าน ผิด 11 คน คุกสูงสุด 203 ปี

“ถวิล พึ่งมา” รอด! ศาลพิพากษาคดีทุจริต สจล. 689 ล้าน ผิด 11 คน คุกสูงสุด 203 ปี

ในประเทศ

นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล. (แฟ้มภาพ)

ศาลจังหวัดมีนบุรีอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตเงิน สจล. ใช้เวลากว่า 15 ชั่วโมง โดยพิพากษาจำคุกสูงสุด 203 ปี อดีตผู้อำนวยการส่วนการคลัง สจล. และจำคุกสูงสุด 193 ปี 8 เดือน อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์ ยกฟ้องนายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดมีนบุรีนัดอ่านคำพิพากษา 572 หน้า คดีการทุจริตเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ใช้เวลานาน 15 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 08.00 น. ของเมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.)

คดีการทุจริตเงิน สจล. จำนวน 3 สำนวน ที่อัยการจังหวัดมีนบุรียื่นฟ้อง นายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์ จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 14 คน ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันปลอมตั๋วเงินและใช้ตั๋วเงินปลอม, เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันฟอกเงิน, สนับสนุนพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต, สนับสนุนพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด

จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.- 12 พ.ย.2555 ต่อเนื่องในปี 2557 พวกจำเลยได้ร่วมกันยักยอกทรัพย์เบียดบังทรัพย์ 689 ล้านบาทเศษ ของ สจล.ไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต และยังร่วมกันฟอกเงิน 303 ล้านบาทเศษด้วย ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ศาลได้พิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ของนายทรงกลด อดีตผู้จัดการ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ น.ส.อำพร น้องสัมฤทธิ์ อดีตผู้อำนวยการส่วนการคลัง สจล. ร่วมกันใช้ทั้งอำนาจในหน้าที่และในฐานะส่วนตัวฉ้อฉล ลักทรัพย์เงินจากบัญชี สจล.ไปเมื่อเดือนธันวาคม 2557 ยอดแรกกว่า 80 ล้านบาท และยังร่วมกับจำเลยคนอื่น ๆ เปิดบัญชีรับฝากเงินไว้แล้วมีการโอนเงินยอด 55 ล้านบาท ไปเพื่อประโยชน์ของพวกตนเอง

ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐาน พิพากษาจำคุกจำเลยรวม 11 คน ยกฟ้อง 3 คน โดยเห็นว่าการกระทำของนายทรงกลด จำเลยที่ 1 เป็นความผิดตามฟ้องฐานลักทรัพย์ของนายจ้าง, ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ปลอมและใช้ตั๋วเงินปลอม กับฟอกเงิน จำคุกรวม 193 ปี 8 เดือน คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุก 145 ปี 3 เดือน

(แฟ้มภาพ)

ส่วน น.ส.อำพร มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรฯ จำคุกทั้งสิ้น 203 ปี ลดโทษ 1 ใน 4 คงจำคุก 152 ปี 3 เดือน โดยโทษกระทงหนักสุดที่จำคุกสูงสุดนั้นเกินกว่า 10 ปี โดยโทษกระทงหนักสุดที่จำคุกสูงสุดนั้นเกินกว่า 10 ปี ดังนั้นเมื่อรวมลงโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกทั้งสิ้น 50 ปี และให้ชดใช้เงินคืน กับ สจล. รวมทั้งให้ยกฟ้องในส่วนนายสมบัติ โสประดิษฐ์ นายภาดา บัวขาว และนายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล.

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังฟังคำพิพากษานาน 15 ชั่วโมง นายถวิลกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด หากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ก็พร้อมสู้คดี

ขณะที่ญาติของจำเลย 8 คนยื่นขอประกันตัว ซึ่งนายอภิชาติ เทพหนู ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมีนบุรี พิจารณาแล้วจึงเห็นควรให้ส่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่งต่อไป

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง