ประเด็นคือ – ถังใส่สารแอมโมเนียล้ม เกิดรั่วไหลภายในโรงน้ำแข็งอยุธยา ทำคนงานจำนวน 35 คน สูดดมจนแน่นหน้าอก จนท.นำส่ง รพ. ก่อนสั่งโรงงานหยุดผลิตชั่วคราว
วันที่ 28 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. พ.ต.ท มาโนช ฤทธิพูน สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุมีสารแอมโมเนียรั่วไหลภายในโรงน้ำแข็งอยุธยา เลขที่ 31 ม.7 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และกำลังอาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ให้ความช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุเป็นโรงน้ำแข็ง ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นพนักงานโรงงานน้ำแข็ง จำนวนกว่า 35 คน เป็นชาย 17 คน หญิง 18 คน มีเด็กเล็กรวมในนั้น 9 คน ได้รับสารแอมโมเนียทางอากาศจากการสูดดม ส่งผลให้หายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ต้องช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
จากการสอบถาม นายอภิชาติ สุขสมบูรณ์ นายก อบต.บ้านป้อม เล่าว่า ได้รับแจ้งสาเหตุเกิดสารเคมีรั่วไหลพบว่า เป็นสารแอมโมเนีย โดยสาเหตุเกิดจากมีรถ 6 ล้อ ชนถัง 200 ลิตร ที่วางเรียงไว้จนล้มไป 1 ถัง ทำให้สารแอมโมเนียที่อยู่ในถังเริ่มระเหยออกมา ส่งผลให้คนงานที่พักผ่อนอยู่ในบ้านพักสูดดมเข้าไป จนทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอก แสบจมูก จำนวนหลายรายดังกล่าว เบื้องต้นสั่งอพยพคนงานทั้งหมดออกมาเพื่อความปลอดภัย ตอนนี้สารได้ระเหยออกหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ตามจะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย
ขณะเดียวกันที่ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา นายธานินทร์ สีวราภรณ์สกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เดินทางมาดูผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
เบื้องต้น ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่มีอาการแน่นหน้าอก แสบจมูก เนื่องจากสูดดม ซึ่งส่วนใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อย ทางทีมแพทย์ตรวจดูอาการ และรอตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอพยพคนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงออกจากจุดเกิดเหตุ จนกว่ากลิ่นจะหมดไป และให้โรงงานดังกล่าวหยุดผลิตชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัย
