ประเด็นคือ- ทหารรวมพลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและชาวบ้าน เร่งกั้นกระสอบทรายวางแนวถนนทางเข้าหมู่บ้าน หลังพนังกั้นน้ำชีถูกน้ำกัดเซาะเป็นทางยาวกว่า 30 ม. น้ำชีทะลักเสี่ยงไหลบ่าเข้าท่วม 9 หมู่บ้าน
เมื่อวานนี้ (5 พ.ย. 60) กำลังพลทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.มหาสารคาม รวมพลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยชาวบ้านจากบ้านหนองข่าและบ้านหนองคู ต.ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม กว่า 100 คน เร่งกรอกกระสอบทรายและนำไปวางไว้ตามแนวถนนรอบหมู่บ้าน ระยะทางยาวกว่า 1 กม. เพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำชีที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่น้ำชีได้กัดเซาะผิวถนนจนถนนขาด ความยาวกว่า 30 ม. ช่วงบริเวณถนนเส้นโรงสูบน้ำเขื่อนวังยาง ไปบ้านท่าตูม ส่งผลให้มวลน้ำมหาศาล ไหลเข้าท่วมพื้นที่นาของเกษตรกร ทันทีกว่า 6,000 ไร่ ซึ่งจุดที่ชาวบ้านกั้นกระสอบทราย เป็นจุดเดียวที่ชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน ใช้เป็นเส้นทางเข้าออก หากน้ำชีเอ่อล้นกระสอบทราย ก็จะไม่มีทางเข้าออกหมู่บ้าน
ทั้งนี้จุดที่พนังแตกเป็นช่วงคุ้มน้ำ ทำให้น้ำไหลแรงและเซาะผิวใต้ถนนจนขาด ระยะทางยาวกว่า 30 ม. มวลน้ำไหลเข้าทุ่งนาข้าวของพี่น้องเกษตรกร ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำหน้าฝายวังยางลดลงอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ช่วงเวลา 19.00 น. ของวันที่ 4 พ.ย. 60 โดยเจ้าหน้าที่ชลประทาน และกลุ่มผู้ใช้น้ำเขื่อนระบายน้ำวังยางได้นำรถไถปรับเกรดทางเข้าจุดที่พนังขาด เพื่อเตรียมพร้อมในการดำเนินการลำเลียงวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรเข้าไปที่หน้างาน ในการเร่งซ่อมแซมพนังที่ขาดอย่างเร่งด่วน
ขณะที่นายวิทยา มากปาน รอง ผวจ.มหาสารคาม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและให้ดำเนินการแก้ไข โดยมีผู้แทนจากสำนักชลประทานที่ 6 ขอนแก่น และผู้อำนวยการเขื่อนวังยาง จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ระดับน้ำในพื้นที่สองฝั่งพนังกันน้ำขาดเริ่มมีระดับใกล้เคียงกัน และพื้นที่เสียหายเป็นพื้นที่น้ำท่วมอยู่เดิม จึงจะใช้การป้องกันด้วยการรักษาแนวถนนเป็นหลักเพื่อป้องกันน้ำท่วมเขตชั้นใน เขตหมู่บ้าน ตั้งแต่บ้านหนองโดน บ้านอ้อยช้าง บ้านหนองข่า และบ้านโปโล ต.ท่าตูม อ.เมืองมหาสารคาม โดยเร่งเสริมกระสอบทรายบริเวณจุดเสี่ยงภัยตลอดทั้งแนว
