ประเด็นคือ – นักข่าวขอสัมภาษณ์ครูปรีชา ซึ่งครั้งนี้อารมณ์ดีผิดจากที่เคยเป็นมา และบอกไม่รู้ว่าทนายตั้มชวนไปพบลุงตู่เพื่อหาข้อยุติ เพราะทีวีที่บ้านเสียหมดแล้ว
จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ในฐานะทนายความส่วนตัวของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี ข้าราชการเกษียณตำรวจ ได้เขียนข้อความโพสต์ลงในเฟสบุ๊กว่า “คุณลุงจรูญและครอบครัว มีแนวความคิดที่อยากจะจับมือกับครูปรีชาและทีมพยาน พร้อมกุนซือของครูทุกคน เพื่อหาข้อยุติคดีหวย โดยที่วินวินกันทั้งสองฝ่าย ด้วยการเข้าไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (20 มี.ค. 61) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักเลขที่ 143/22 บ้านทุ่งนา ซ.5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ของ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี
เมื่อไปถึงพบครูปรีชากำลังเดินไปเปิดประตูรถกระบะ เพื่อขับไปโรงเรียน สื่อมวลชนจึงรีบพูดคุยเพื่อขอสัมภาษณ์ โดยครั้งนี้ครูปรีชาให้การตอบรับที่จะให้สัมภาษณ์ด้วยดี และมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก
สื่อมวลชนได้สอบถามว่า กรณีที่ นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม โพสต์เฟสบุ๊กชวนฝ่ายครูปรีชา รวมทั้งพยานและทีมกุนซือเข้าไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และให้นำหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่ไปแสดงพร้อมกัน เพื่อที่จะได้หาทางออกกันอย่างวินๆ ครูปรีชาตอบว่า เรื่องนี้ครูยังไม่ทราบเช่นกัน เพราะที่บ้านทีวีเสียหมดแล้ว โทรศัพท์ก็ไม่ได้ดู ถามว่าถ้าเป็นเรื่องจริง ครูปรีชาจะโอเคด้วยหรือไม่ ครูปรีชาตอบว่า เดี๋ยวต้องถามทางทนายก่อน ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ครูปรีชาจะเข้าไปร้องขอความเป็นธรรมที่กระทรวงยุติธรรมเมื่อไหร่และวันไหน ครูปรีชาตอบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำตารางอยู่ แต่ยังไม่เรียบร้อย
หลังจากครูปรีชาตอบคำถามเสร็จ ก็ได้ขึ้นไปบนรถพร้อมกับขอตัวไปโรงเรียน ผู้สื่อข่าวจึงได้ขอให้ครูปรีชาฝากถึงแฟนคลับที่กำลังเชียร์อยู่ ครูปรีชาก็ได้กล่าวว่า ขอฝากบอกทุกคนให้เคารพ และเชื่อมั่นในการทำงานของทุกฝ่าย เคารพในสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นของประชาชน และขอบอกประชาชนทุกคนว่า ยังไงก็ดีเรื่องของคดีความ ขอให้ผ่านกระบวนการตัดสินของศาล ซึ่งก็ขอขอบคุณนักข่าว และครูไม่ได้หนีไปไหน เพราะที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการตรวจข้อสอบนักเรียน และขณะนี้ได้ตรวจข้อสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าทางกระทรวงศึกษาธิการจะพิจารณาเรื่องจรรยาบรรณนั้น ก็ได้รายงานข้อเท็จจริงไปแล้ว ส่วนเรื่องคดีความก็ขอให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน คงรออีกไม่นาน
