
จ.นครราชสีมา ปล่อยขบวนรถบรรทุกสิ่งของ 16 คัน พร้อมเงินกว่า 6.6 แสนบาท ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จากเขื่อนแตก ที่ สปป.ลาว ขณะที่ ผู้ว่าฯ สั่ง ปภ.ให้เฝ้าระวังจุดเสี่ยงในพื้นที่
วันที่ 30 ก.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการ จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย นายชัยวาลย์ วงจร ประธานหอการค้า จ.นครราชสีมา ได้ร่วมกันปล่อยขบวนรถบรรทุกสิ่งของอุปโภคบริโภค รถแพทย์ฉุกเฉิน และรถกู้ภัย เพื่อส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่ประเทศ สปป.ลาว จากเหตุเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก โดยมีผู้ร่วมบริจาคเงินสมทบเพิ่มอีกหลายราย อาทิ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช, ห้างสรรพสินค้าเซนทรัลโคราช, ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช และนักธุรกิจในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พร้อมกันนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาคที่ 2 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตา และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา ร่วมเดินทางไปกับขบวนครั้งนี้ด้วยกว่า 50 คน

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากที่ทาง จ.นครราชสีมา ได้รับข่าวเขื่อนที่ประเทศ สปป.ลาว แตก ส่งผลให้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยเป็นจำนวนมาก ทาง จ.นครราชสีมา นำโดยหอการค้า จ.นครราชสีมา ก็ได้เปิดจุดรับบริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภค และเงิน ที่บริเวณศาลาทรงไทยข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี มาตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดได้มีผู้นำสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง เสื้อผ้า กางเกง และเวชภัณฑ์ รวมทั้งเงิน เป็นจำนวนมาก
วันนี้ทาง จ.นครราชสีมา จึงได้ดำเนินการส่งของที่ได้รับบริจาคทั้งหมดไปช่วยเหลือชาว สปป.ลาว สำหรับสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภค จำนวน 16 คันรถบรรทุก โดยจะส่งไปที่ด่านพรมแดนช่องเม็ก อ.สิรินทร จ.อุบลราชธานี เพื่อที่จะได้ประสานกงสุลลาว ให้มารับของบริจาคทั้งหมดไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที ส่วนจำนวนเงินที่รับบริจาค ขณะนี้ได้จำนวนกว่า 661,000 บาท และยังมีผู้มาบริจาคเพิ่มขึ้นอีกต่อเนื่อง
โดยทาง จ.นครราชสีมา จะนำไปมอบให้กับกงสุล สปป.ลาว ที่ จ.ขอนแก่น ในวันที่ 2 สิงหาคม นี้ สำหรับการรับบริจาคสิ่งของและเงิน หลังจากนี้ไปก็จะปิดจุดรับบริจาคที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี แต่สำหรับประชาชนที่อยากจะร่วมบริจาคเพิ่มเติม ก็ยังสามารถบริจาคได้ที่สำนักงานหอการค้า จ.นครราชสีมา และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา ซึ่งจะเปิดรับบริจาคต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จึงจะปิดรับบริจาคต่อไป

ทั้งนี้ นายวิเชียร ยังกล่าวอีกว่า ขอฝากถึงพี่น้องชาวลาวที่กำลังประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัยทุกคนว่า หลังจากที่เราทราบข่าวเขื่อนแตก ชาวโคราชทุกคนก็รู้สึกห่วงใย เนื่องจากชาวลาว ก็เหมือนเป็นญาติสนิทของพี่น้องชาวไทยเช่นกัน ซึ่งเราชาวโคราชก็พร้อมที่จะสนับสนุนช่วยเหลือในทุกด้าน เพื่อจะช่วยให้พี่น้องชาวลาวปลอดภัย และขอส่งกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัยทุกคน
ด้านการเตรียมพร้อมรับมือฝนตกในพื้นที่ จ.นครราชสีมา นั้น แม้ว่า จ.นครราชสีมา จะไม่ใช่พื้นที่เกิดฝนตกหนักตามการแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาก็ตาม แต่ก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ ปภ.จ.นครราชสีมา เฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนแหล่งน้ำในเขตชุมชนให้พร่องน้ำออกเพื่อเตรียมรับก้อนน้ำใหม่เข้ามา โดยขณะนี้บุ่งตาหลั่วฯ ได้ดำเนินการแล้ว เพราะปัญหาน้ำท่วมขังในเขตชุมชนตัวเมืองโคราชยังไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ แต่น้ำในเขื่อนใหญ่ทั้ง 5 แห่ง ของ จ.นครราชสีมา ยังรับน้ำได้อีกมาก มีเพียงเขื่อนลำตะคองที่ปริมาณน้ำมากกว่าเขื่อนอื่น คือ มีความจุร้อยละ 60 ส่วนที่อื่นต่ำกว่าร้อยละ 50 แต่ยังไม่น่าเป็นห่วง

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews









