
ประเด็นคือ – “ยิ่งมีระเบิดเพิ่มขึ้น ร้านขายโลงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น” สงครามอาจทำลายทุกสิ่งแต่ไม่ใช่ธุรกิจขายโลงศพในอัฟกานิสถาน
ในประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ธุรกิจขายโลงศพเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ไม่ค่อยรุ่งเรืองนักเพราะโดยทั่วไป คนมุสลิมใช้ผ้าขาวห่อศพก่อนฝังไม่ใช้โลง จะมีการใช้โลงเฉพาะในบางกรณีเท่านั้น แต่ที่อัฟกานิสถาน ประเทศที่คนส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาอิสลาม ธุรกิจนี้กลับเติบโตรุ่งเรืองจากอานิสงส์ของภาวะสงครามที่ยืดเยื้อมา 16 ปีสงครามทำให้มีคนตายไม่เว้นแต่ละวันจนกลายเป็นเรื่องชินตาและชินชา
Abdullah Sultani อายุ 28 ปีทำธุรกิจโลงศพตั้งแต่ปี 2557 “ยิ่งมีระเบิดเพิ่มขึ้น ร้านขายโลงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ผมต้องประจำอยู่ที่ร้านตลอด 24 ชั่วโมงเพราะเหตุโจมตีเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ” เมื่อเดือนสิงหาคม เกิดเหตุโจมตีมัสยิดในกรุงคาบูลทำให้มีผู้เสียชีวิต 28 คน “วันนั้นผมขายโลงได้ 7 ใบ ทั้งหมดสำหรับหนึ่งครอบครัว มีพ่อ แม่ แล้วก็ลูก ๆ … ทั้งครอบครัวเลยครับ” มีอยู่อีกครั้งหนึ่ง ครอบครัวหนึ่งนำศพลูกที่ถูกระเบิดร่างแหลกเละขนาดที่แม้แต่คนในครอบครัวยังจำไม่ได้ไปที่ร้านเพื่อหาโลงให้ลูก “ถึงผมจะขายโลงได้ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกดีนะครับ แต่ผมจะทำอะไรได้ล่ะ”

Briyalay Khan อายุ 29 ปีขายโลงศพมา 3 ปี “ที่นี่ไม่มีงานอื่นให้ทำ มีระเบิดแทบทุกวันแล้วก็มีคนตายในสภาพดูไม่ได้แทบทุกวันด้วย” เมื่อ 4 เดือนก่อน Khan ขายโลงได้ถึงวันละ 50 ใบ “เวลาที่ครอบครัวเหยื่อที่เสียชีวิตมาซื้อโลง บางคนโกรธเกรี้ยว พูดจาหยาบคายกับผม ผมก็จะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เพราะเข้าใจความรู้สึกของพวกเขา” ก่อนจะมาเปิดร้านเอง Khan เคยเป็นเด็กฝึกงานที่ร้านทำโลงศพแห่งหนึ่ง “ตอนนั้นมีร้านขายโลงในคาบูลแค่ 2 ร้านแต่ตอนนี้มีไม่ต่ำกว่า 40-50 ร้าน”
การทำโลงขายทำให้ Khan กับครอบครัวของเขาอีก 5 ชีวิตอิ่มท้องก็จริง แต่เขาบอกว่าไม่อยากให้ลูกสืบทอดกิจการนี้ “ผมจำเป็นต้องทำเพราะไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำ ถ้าบ้านเมืองกลับมาสงบสุข คงไม่มีใครอยากได้โลงศพหรอกครับ”

ที่มา Aljazeraa









