
นายอำเภอศรีสะเกษ นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกจับแก๊งมอดไม้ ลับลอบซุกไม้พะยูง 55 ท่อน ไว้ในสระน้ำใกล้วัด แนวชายแดนไทย – กัมพูชา เตรียมขนย้ายส่งขายต่างประเทศ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท แต่ขณะจับกุมผู้ต้องหาไหวตัวทันหลบหนีไปได้
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มมอดไม้ลักลอบตัดไม้พะยูงตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชาและซุกซ่อนไม้พะยูงเอาไว้เพื่อส่งขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อ จึงได้สั่งการให้ นายอรรถพล อรรคบุตร นายอำเภอภูสิงห์ จัดชุดออกสืบสวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ จนได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มขบวนการค้าไม้พะยูงรวบรวมไม้พะยูงซุกซ่อนไว้ในสระน้ำด้านทิศตะวันตกของวัดบ้านคลองสาน ม.15 ต.ห้วยตึ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเตรียมการเคลื่อนย้าย เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบพบรถเก๋งต้องสงสัยและกลุ่มชายต้องสงสัย 4 คน กำลังนั่งจับกลุ่มอยู่ในกระท่อม จากนั้นกลุ่มผู้ต้องสงสัยไหวตัวทัน จึงได้พากันวิ่งหลบหนีหลุดรอดไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบรอบบริเวณที่เกิดเหตุอย่างละเอียด

นายอรรถพล อรรคบุตร นายอำเภอภูสิงห์ เผยว่า จากการตรวจค้นพบของกลางประกอบด้วย 1.รถยนต์เก๋ง วีออส สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน พร้อมไม้พะยูงแก่นล่อน 4 ท่อน 2.ไม้พะยูงแปรรูป จำนวน 55 ท่อน ซุกซ่อนไว้ในสระน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันงมเอาไม้พะยูงขึ้นมาจากสระน้ำ 4 .เครื่องปั่นไฟฟ้า 1 เครื่อง 5.ปั้มน้ำไดโว่ 1 เครื่อง และ 6.โซ่สำหรับชักลาก 2 ม้วน ซึ่งไม้พะยูงทั้งหมดหากส่งไปขายต่างประเทศ จะมีมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายไสว ผิวงาม ผู้ใหญ่บ้านคลองสาน แจ้งว่า กระท่อมดังกล่าวเป็นของ นายธีรเดช หรือตี๋ แซ่โก ลูกบ้านของตน ซึ่งได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางของทั้งหมดไว้ ก่อนแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป












