
บูม จิรัชพิสิษฐ์ พร้อมด้วยพี่สาวและพี่ชาย แถลงทั้งน้ำตา หวั่นพ่อแม่ไม่ได้ประกันตัวในคดีฟอกเงินบิทคอยน์ ยืนยัน ไม่ได้โกง
วันที่ 30 ต.ค. 61 นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือ บูม ดารานายแบบพร้อมครอบครัวและทีมทนาย แถลงเปิดใจยืนยันความบริสุทธิ์หลังถูกตำรวจจับกุมในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จากการหลอกลวงนักธุรกิจชาวฟินแลนด์ให้ลงทุนในธุรกิจเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอเรนซี สกุลบิทคอยน์ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท
นายจิรัชพิสิษฐ์ กล่าวว่า ตอนนี้ตำรวจแจ้งว่าพ่อแม่ผมฟอกเงินให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ทำให้เกิดความกังวลว่าท่านอาจไม่ได้ประกันตัว ผมเชื่อในกระบวนการยุติธรรม และจะต่อสู้คดี ไม่หนีอย่างแน่นอน ยืนยัน พ่อแม่เป็นคนทำงานหนักมาโดยตลอด ตั้งแต่ค้าขายมาถึงทำร้านอาหารจนมีชื่อเสียง และมีทรัพย์สินมาก่อนที่จะมีเรื่อง ส่วนเงินที่โอนเข้ามาในบัญชีนั้น เข้าใจว่าเป็นเงินที่เกิดจากการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวที่พี่ชาย คือ นายปริญญา เป็นผู้ดูแล

ขณะที่ น.ส.สุพิชย์ฌา จารวิจิต พี่สาว บอกว่า ไม่เคยเล่นหุ้น จึงไม่ใช่เจ้าแม่ตลาดหุ้นตามที่เป็นข่าว เมื่อลูกถูกตราหน้าว่าเป็นคนโกง พ่อ-แม่ รู้สึกตรอมใจมาก เมื่อมาเจอเหตุการณ์ที่ลูกทุกคนต้องเดินขึ้น-ลงศาล เตี่ย อายุ 80 ปี จะมาฟอกเงินเหรอ แบงก์รู้อยู่แล้วว่าครอบครัวเรามีเงิน ขอร้องสื่อเสนอข้อมูลตามความเป็นจริง ครอบครัวเราแต่ละคนไม่เคยมีประวัติการทำผิดมาก่อน มาวันนี้ตนถูกเรียกว่าเป็นนักต้มตุ๋น ทั้งที่ไม่รู้จักกับบุคคลเหล่านั้นเลย ยืนยันไม่เคยคิดหนี ที่ผ่านมาไปรายงานตัวทุกนัด
ด้าน นายธนสิทธิ์ จารวิจิต พี่ชาย กล่าวว่า ช่วงแรกตนเป็นคนเดียวในครอบครัวที่ไม่ถูกออกหมายจับ และเพิ่งได้รับหมายเรียกให้ไปที่กองปราบฯ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงินในวันที่ 30 ต.ค.นี้ ยืนยันว่า เราไม่มีพฤติกรรมหลบหนี พ่อแม่ก็ยังใช้ชีวิตปกติ พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง นายเออาร์นี และที่ออกมาแถลงข่าวครั้งนี้เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวจารวิจิตร ซึ่งคุณพ่อทำงานหนักมาตลอด และภัตตาคารของครอบครัวเปิดมาเป็นเวลากว่า 50 ปี เป็นที่รู้จักกันดี การที่ครอบครัวไม่ออกมาแถลงก่อนหน้านี้ เพราะคนที่เป็นตัวการหลักและรู้เรื่องนี้ดีคือ นายปริญญา พี่ชายคนโตที่ทำธุรกิจกับ นายเออาร์นี จึงอยากให้เป็นคนแถลงข่าว แต่ก็หลบหนีไปสหรัฐอเมริกา ต่อมาได้ประสานงานเพื่อเข้ามอบตัวกับตำรวจ อยากให้สื่อมวลชนเกาะติดเรื่องนี้ เราไม่ต้องการให้พลังเงินของ นายเออาร์นี สร้างผลกระทบเสียหายต่อเรา ครอบครัวจารวิจิตรไม่ใช่อาชญากร เราทำธุรกิจปกติทั่วไป










