ป.ป.ท.เขต 3 ลุยตรวจสอบโรงเรียนในพื้นที่ จ.ยโสธร อีกแห่ง หลังรับรายงานว่าแจ้งยอดนักเรียนเกินจริง เพื่อหวังขอรับเงินอุดหนุนจากภาครัฐ-อัปเกรดผู้บริหารโรงเรียน จากโรงเรียนขนาดเล็ก ให้โอนย้ายขึ้นเป็นผู้บริหารในโรงเรียนขนาดใหญ่ได้
วันนี้ (4 ธ.ค. 61) พ.ต.ท.สามารถ ไชยณรงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 3 (ป.ป.ท. เขต 3) นำกำลังเข้าตรวจสอบจำนวนนักเรียนที่ รร.ยโสธรพิทยาสรรค์ ในพื้นที่ ต.ตาดทอง อ.เมือง จ.ยโสธร หลังจากได้รับร้องเรียนว่าโรงเรียนดังกล่าว มีการรายงานยอดจำนวนนักเรียนที่สูงเกินจริง และยอดนักเรียนที่รายงานไปที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กับยอดที่รายงานไปที่สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาที่ 28 ศรีสะเกษ ไม่ตรงกัน ซึ่งมีตัวเลขที่แตกต่างกันมาก
จากการสุ่มตรวจพบว่ามีตัวเลขของยอดจำนวนนักเรียนที่แตกต่างกันมาก เชื่อว่าน่าจะมีการแจ้งยอดนักเรียนที่สูงเกินจริง เพื่อต้องการจะขอรับเงินอุดหนุนจากทางภาครัฐ และอัปเกรดผู้บริหารโรงเรียน จากโรงเรียนขนาดเล็กให้สามารถโอนย้ายขึ้นไปเป็นผู้บริหารในโรงเรียนขนาดใหญ่ได้ โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เขต 3 ได้ตรวจเช็กจำนวนนักเรียนตามห้องเรียนจนครบทุกห้อง
โดยมีการตรวจเช็กตามรายชื่อของนักเรียนที่ทางโรงเรียนมีรายชื่อนักเรียนในแต่ละระดับชั้นว่า มีนักเรียนที่มีตัวตนและมาโรงเรียนจริงๆ จำนวนเท่าไร ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าแจ้งในระบบ 514 คน แต่เช็กตัวเลขนักเรียนปัจจุบันมี 366 คน ดังนั้น นักเรียนที่ไม่มีตัวตนมีถึง 148 คน
สอบถามนักเรียนแล้วไม่ทราบว่าคนที่มีรายชื่อร่วมชั้นเรียนเป็นใคร เพราะบางคนไม่เคยเห็นเข้าเรียน แต่ทางโรงเรียนอ้างว่ารายชื่อนักเรียนที่ไม่มาโรงเรียนและไม่มีตัวตนในห้องเรียนนั้น เป็นนักเรียนนอกระบบที่เข้ามาเรียนร่วม จึงทำให้ไม่มีนักเรียนมาแสดงตัวตนได้
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ทาง ป.ท.ท.เขต 3 ได้ตรวจสอบจำนวนนักเรียนที่โรงเรียนสอนแก้วว่องไววิทยา ต.เดิด อ.เมือง จ.ยโสธร มาแล้ว
ทั้งนี้ จังหวัดยโสธร ส่วนใหญ่ปัญหาที่พบจะมีลักษณะเหมือนกันคือ แจ้งยอดนักเรียนที่สูงเกินจริง เพื่อต้องการตำแหน่งผู้บริหารจากโรงเรียนขนาดกลางไปโรงเรียนขนาดใหญ่ และขอรับเงินอุดหนุนรายหัวจากภาครัฐ โดยในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จะได้รับเงินอุดหนุนคนละ 3,500 บาทต่อปี ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายคนละ 3,800 บาท ต่อปี
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะสรุปข้อมูลให้กับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป
