ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร ยังคงมีร่องมรสุมพาดผ่านตั้งแต่วันที่ 7-11 พฤศจิกายน เดือดร้อนเกือบ 2 หมื่นครัวเรือน เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และแจกจ่ายถุงยังชีพ
วันที่ 11 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 7-11 พฤศจิกายน 2561 ทำให้เกิดสถานการณ์ภัยใน 3 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 1 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 2 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร รวม 11 อำเภอ 78 ตำบล 601 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,674 ครัวเรือน 46,315 คน ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 7-11 พฤศจิกายน 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และเพชรบุรี รวม 13 อำเภอ 80 ตำบล 603 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,674 ครัวเรือน 46,315 คน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 1 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี และยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 2 จังหวัด รวม 11 อำเภอ 78 ตำบล 601 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,674 ครัวเรือน 46,315 คน ได้แก่
จ.ประจวบคีรีขันธ์ น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.บางสะพานน้อย อ.บางสะพาน อ.ทับสะแก และ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รวม 18 ตำบล 129 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,500 ครัวเรือน 10,000 คน เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ขณะที่บริเวณถนนเพชรเกษม บ้านช่องลม อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีน้ำท่วมถนน รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ทั้ง 2 ฝั่ง สามารถผ่านได้แต่รถใหญ่เท่านั้น
จ.ชุมพร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ปะทิว อ.สวี อ.เมืองชุมพร อ.หลังสวน อ.ทุ่งตะโก อ.ท่าแซะ และ อ.ละแม รวม 60 ตำบล 472 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,174 ครัวเรือน 36,315 คน เสียชีวิต 2 ราย โรงเรียน 65 แห่ง ถนน 690 สาย สะพาน 56 แห่ง พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับผลกระทบ 4,235 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุน ระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ทั้งนี้ ได้กำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ท้ายนี้หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
