
ประกาศแล้วหลักเกณฑ์แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ต้องอิงตามหลักอาวุโส และระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง
วันที่ 1 ส.ค.2561 ราชกิจจานุเบกษา ตอนพิเศษ 181ง ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส ลงวันที่ 31 ก.ค. 2561 ใจความสำคัญระบุว่า ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 กำหนดให้มีการคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ) และออกกฎหมายเพื่อปรับปรุงแก้ไขการแต่งตั้งตำรวจให้ดีขึ้น หากภายใน 1 ปี นับแต่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ คือ 6 เมษายน 2560 ยังไม่แล้วเสร็จ ให้การแต่งตั้งตำรวจเป็นตามอาวุโสตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทำให้เกิดความกังวลสับสนในกลุ่มข้าราชการตำรวจว่าการแต่งตั้งต้องเป็นไปตามอาวุโส อย่างไร กระทั่งประกาศนี้ออกมา
กำหนดให้ คำว่า “อาวุโส” คือผู้มีคุณสมบัติครบ เหมือนตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2561 ประกาศนี้ให้ใช้หลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโสนี้ ตั้งแต่ วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป

การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจให้ดำเนินการตามหลักอาวุโส หมายความว่า ข้าราชการตำรวจผู้มีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการตำรวจในแต่ละระดับ ที่มีความเหมาะสมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์นี้จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น โดยกำหนด ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับและคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นไว้ เช่นรองผู้บัญชาการจะเป็นผู้บัญชาการ ต้องดำรงตำแหน่งรองผบช.อย่างน้อย 1 ปี ทั้งนี้ ให้พิจารณาข้าราชการตำรวจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เรียงลำดับอาวุโสไว้แล้วได้รับการพิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสร้อยละ 33 ของจำนวนตำแหน่งว่างในระดับเดียวกัน ไม่ให้นำวิธีนับอาวุโสในการรักษาราชการแทนของข้าราชการตำรวจมาใช้ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักเกณฑ์นี้

การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่อยู่ในหลักอาวุโสเดียวกัน ให้ไปดำรงตำแหน่งในระดับเดียวกันหรือเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถ ตลอดจนผลงานและประโยชน์แก่ทางราชการตำรวจ ประกาศนี้ระบุและว่า หากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายให้ร้องทุกข์หรือร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาได้ตามกฎหมาย กรณีที่ข้าราชการตำรวจหรือบุคคลใดพบ หรือทราบว่ามีการเรียก รับ หรือกระทำด้วยประการอื่นใด อันมีการเรียกร้องผลประโยชน์แลกเปลี่ยนตอบแทน ในลักษณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีให้แจ้งเบาะแส พฤติการณ์ และตัวบุคคลอันสามารถนำไปสู่การสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป โดยไม่จาเป็นต้องแจ้งชื่อและที่อยู่ ต่อศูนย์อานวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) กระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจสอบและนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย โดยทางการจะรักษาข้อมูลเกี่ยวกับ ผู้แจ้งไว้เป็นความลับ

สำหรับนายพลยศ พล.ต.ท. ตำแหน่งผู้บัญชาการ ที่จะเกษียณในวันที่ 30 ก.ย.2561 ประกอบด้วย
- พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือ ผบช.น.
- พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
- พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
- พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
- พล.ต.ท.ประพันธ์ จันทร์เอม ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
ต้องจับตาดูว่าโผแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจปี 2561 จะมีตำรวจท่านใดจะได้มานั่งเก้าอี้แทนตำแหน่งที่ว่างลง
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส
ขอบคุณภาพประกอบจากเพจ : โปลิศไทยแลนด์ – Police Thailand News









