
“ลุงดำ” มนุษย์กล้วย แห่งนครศรีธรรมราช ประกาศเลิกปลูกต้นกล้วยริมถนน ต.นาบอน หลังแขวงการนครศรีธรรมราช โค่นต้นกล้วยทิ้ง และสั่งให้ปลูกเว้นระยะห่างจากถนน 6 เมตร ชี้ช่วยลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุไม่ได้
วันที่ 17 ต.ค. ลุงดำ นายจำรัส แซ่อื้อ อายุ 66 ปี ชาว ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของฉายา “มนุษย์กล้วย” จากการปลูกกล้วยไว้สองข้างทางริมถนนหลายสาย ใน ต.นาบอน ด้วยเจตนาหวังช่วยลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ประกาศเลิกปลูกต้นกล้วยข้างทาง หลังจากเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หมวดการทางช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช นำรถเครื่องจักรมาขุดโค่นต้นกล้วยที่ปลูกไว้ริมถนนสองฝั่ง สายนาบอน-แก้วแสน ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร
ลุงดำ เปิดเผยว่า ตนเคยเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศจีน เห็นเขาปลูกต้นกล้วย พันธุ์ไม้ต่างๆ ริมถนน จึงสอบถามทราบว่า ต้นกล้วยช่วยลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุได้ เมื่อตนกลับมาเมืองไทย จึงนำแนวคิดนั้นมาเริ่มปลูกต้นกล้วยริมถนนตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งต้นกล้วยที่ปลูกไว้ ริมถนนสายนาบอน – แก้วแสน ต.นาบอน เคยมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต เพราะต้นกล้วยริมถนนสามารถช่วยลดแรงปะทะ จึงขยายการปลูกไปตามสองฝั่งถนนหลายสายจนเป็นที่ยอมรับของชาวบ้าน

เจ้าของฉายามนุษย์กล้วย กล่าวต่อว่า แขวงทางหลวงกำหนดให้ตนปลูกต้นกล้วยริมถนน โดยต้องเว้นระยะห่างไม่ต่ำกว่า 6 เมตร ซึ่งไม่สามารถทำได้ เนื่องจากพื้นที่ต่างระดับไม่เป็นแนวเรียบ ส่วนใหญ่จะอยู่หลังแนวเสาไฟฟ้าและใกล้แนวเขตที่ดินของชาวบ้าน ที่สำคัญตนมองว่า การปลูกต้นกล้วยไกลจากริมถนน 6 เมตรนั้นไม่สามารถช่วยละแรงปะทะเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ จึงตัดสินใจเลิกปลูกต้นกล้วยข้างทาง เพราะปลูกไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับคนใช้รถใช้ถนน ไม่สามารถลดความสูญเสียชีวิตเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ ยอมรับว่า เสียความรู้สึกมาก เพราะตนตั้งใจทำเพื่อสังคม แต่ส่วนราชการกลับอ้างเหตุกฎหมาย หลักเกณฑ์ ระเบียบของทางราชการที่จะตัดโค่นต้นกล้วยของตนทิ้ง
“ขอถามส่วนราชการที่เกี่ยวข้องคำสุดท้ายว่า ตอนที่เริ่มตนปลูกต้นกล้วยข้างทางริมถนน มานานตั้งแต่ ปี 2548 ทำไมถึงปลูกได้ ไม่มาห้าม และมองว่าจุดเริ่มต้นที่ต้นกล้วยของตนถูกตัดโค่นทิ้ง เพราะนายทุนเจ้าของที่ดินที่อยู่แนวเขตที่ตนปลูกต้นกล้วยเคยแจ้งกับว่า ให้ตัดต้นกล้วยทิ้ง เพราะต้นกล้วยบดบังทัศนียภาพที่ดินของเขา” ลุงดำ ระบุ

ด้าน นายศรากร หนูเอก รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 2 ( ทุ่งสง ) ยืนยันว่า การปลูกต้นกล้วยของลุงดำต้องปลูกเว้นระยะห่างจากถนน 6 เมตร เนื่องเป็นถนนดังกล่าวเป็นถนนเส้นรอง ที่มาตรฐานความปลอดภัยที่ระบุชัดเจน ว่า ต้องเว้นระยะห่างช่องว่างริมถนนกับผิวถนนเป็นระยะทาง 6 เมตร ส่วนถนนสายหลักกำหนดเว้นระยะห่าง 9 เมตร ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายความปลอดภัยของกรมทางหลวง เพราะหากรถที่ประสบอุบัติเหตุตกข้างทางสามารถช่วยเหลือตัวเองขึ้นมาจากถนนได้ เป็นตามหลักวิชาการของการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ที่สำคัญมีผู้ใช้รถใช้ถนนเส้นทางดังกล่าวร้องเรียนไปยังกรมทางหลวงว่า ต้นกล้วยที่ลุงดำปลูกบดบังป้ายบอกทาง บดบังทัศนียภาพในการขับขี่ หากมีผู้ร้องเรียนหางแขวงทางหลวงฯ ไม่ดำเนินการ ก็จะมีความผิดตามมาตรา 157 คือ การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงยืนยันว่า หากลุงดำจะปลูกต้นกล้วย ให้ปลูกเว้นระยะห่างจากริมถนนไม่ต่ำกว่า 6 เมตร
ขณะที่ นายประไพ กาละ ปลัดป้องกันอำเภอนาบอน กล่าว่า วันนี้ทางอำเภอนาบอน ซึ่งเป็นฝ่ายปกครองที่มีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่ที่เป็นปัญหาอยู่ ระหว่าง ลุงดำ กับ แขวงทางงหลวงนครศรีธรรมราช จึงเป็นตัวกลางหารือทำความเข้าใจเพื่อหาข้อยุติดังกล่าว เบื้องต้นดังกล่าวแขวงทางหลวง ยืนยันว่ากำหนดแนวเขตระยะห่างให้ลุงดำปลูกต้นกล้วยเป็นระยะทาง 6 เมตร ในส่วนของลุงดำยินยอมที่จะทำตามแขวงทางหลวง และจะมีการนัดลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่ลุงดำ ปลูกต้นกล้วย เพื่อวัดระยะแนวเขตให้ลุงดำ ปลูกต้นกล้วย และจะจัดกำลัง อส.ช่วยลุงดำ ปลุกต้นกล้วยทดแทนที่ถูกตัดทิ้งไป

(ลุงดำ เจรจากับเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่2 ทุ่งสง )
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยนำเรื่องราวของการปลูกต้นกล้วยของลุงดำ ไปพูดชื่นชมในการทำสิ่งที่ดีมีประโยชน์กับสังคมทางโทรทัศน์ ในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” (ออกอากาศ วันที่ 10 ก.พ. 2560 / นาทีที่ 9.34 )









