ประชาชนกว่า 200 คน จัดปาร์ตี้ปิ่นโต หน้าทำเนียบฯ ทวงลายเซ็นนายกฯ รับรองกฎหมายเงินบำนาญ 3,000 บาท

ประชาชนกว่า 200 คน จัดปาร์ตี้ปิ่นโต หน้าทำเนียบฯ ทวงลายเซ็นนายกฯ รับรองกฎหมายเงินบำนาญ 3,000 บาท

ในประเทศ
เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการกว่า 200 คนจัดกิจกรรมปาร์ตี้ปิ่นโต ทวงลายเซ็นนายกรัฐมนตรีให้รับรองร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บำนาญแห่งชาติ พ.ศ. …. ให้เงินบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท  
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2563 ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล มีเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการกว่า 200 คนจัดกิจกรรมปาร์ตี้ปิ่นโต นัดกินข้าวหน้าทำเนียบรัฐบาล ทวงลายเซ็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้รับรองร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บำนาญแห่งชาติ พ.ศ. ….
โดยเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ มีข้อเรียกร้องจำนวน 2 ข้อ คือ
1. ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หยุดถ่วงเวลาพิจารณากฎหมายด้วยการเร่งให้คำรับรองร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติฯ ฉบับที่ประชาชนร่วมกันเข้าชื่อเสนอ เพื่อให้กระบวนการพิจารณากฎหมายได้ดำเนินการตามกลไกของรัฐสภาทันที
2.ให้ทุกพรรคการเมือง ที่หาเสียงว่าจะทำบำนาญประชาชน ออกมาร่วมกับเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการเสนอร่างกฎหมายประกบคู่กับร่างกฎหมายของภาคประชาชน เพื่อให้เห็นการร่วมมือกันสร้างบำนาญถ้วนหน้าให้กับคนไทยทั้งประเทศ
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ กล่าวว่า กิจกรรมปาร์ตี้ปิ่นโตวันนี้ เป็นการมาทวงถามนายกรัฐมนตรีให้เซ็นรับรองร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ ที่ประชาชนกว่า 13,000 คน ลงชื่อเสนอกฎหมาย หลังอยู่ในวาระการพิจารณาของนายกฯ นานกว่า 5 เดือน
ถ้าหากเรามีบำนาญพื้นฐาน จะเป็นหลักประกันที่ไม่ทำให้ใครต้องล้มละลายจากการไม่มีกิน เมื่ออายุ 60 ปี เป็นเหมือนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในชีวิต เหมือนระบบหลักประกันด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นหลักค้ำทางสังคมอีกเสาหนึ่ง และถ้าเรามีรัฐบาลที่ฟังเสียงประชาชน ก็หวังว่านายกฯ จะเซ็นรับรองกฎหมายนี้ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ส่วนพรรคการเมืองที่หาเสียงไว้ว่าจะทำบำนาญถ้วนหน้า ก็อยากให้เร่งทำร่างกฎหมายประกบคู่ไปกับร่างของประชาชน
ตัวแทนเครือข่ายประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมวันนี้ เผยว่า การเปลี่ยนเบี้ยยังชีพเป็นบำนาญถ้วนหน้าเป็นกลไกที่รัฐสามารถใช้แก้ปัญหาความยากจนในระยะยาวได้ ถ้าถามว่าเงินที่จะนำมาจัดสรรอยู่ที่ไหน คำตอบคือ อยู่ที่ความพร้อมของประเทศและเจตจำนงของรัฐ ซึ่งประชาชนต้องไม่นิ่งเฉย ต้องส่งเสียง ทวงถาม ทำให้เสียงดังอย่างต่อเนื่อง ว่าประชาชนต้องการหลักประกันด้านรายได้ที่มั่นคงเมื่อสูงวัย
นางสาวเนืองนิช ชิดนอก ประธานเครือข่ายสลัมสี่ภาค อ่านแถลงการณ์ว่า การมีเงินบำนาญรายเดือน 3,000 บาท ที่อ้างอิงจากเส้นความยากจนในปัจจุบัน เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้ผู้สูงอายุทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ใช้ชีวิตวัยเกษียณอย่างมีคุณค่า ในขณะที่ลูกหลานซึ่งอยู่ในวัยทำงาน ไม่ต้องกังวลว่าจะหาเงินเพื่อส่งเสียพ่อแม่ แต่จะมีโอกาสสร้างอนาคตของตัวเองได้มากขึ้น
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง