
การประชุมพิจารณามาตรการแก้ไขปัญหา PM 2.5 จากยานพาหนะใน กทม.-ปริมณฑล มีมติกำหนดมาตรการแก้ไขระยะเร่งด่วน ระยะกลางและระยะยาว
วันนี้ (2 ก.พ. 62) นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณามาตรการแก้ไขปัญหา PM 2.5 จากยานพาหนะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และสถาบันการศึกษา ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันในการกำหนดมาตรการแก้ไข แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
มาตรการระยะเร่งด่วน ประกอบด้วย
1) มาตรการห้ามรถยนต์ที่มีมลพิษสูงวิ่งเข้าพื้นที่กรุงเทพชั้นกลางและชั้นนอก
2) มาตรการเร่งรัดให้นำน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำกว่า 10 ppm (เทียบเท่า EURO 5) มาจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล
3) ให้หน่วยงานภาครัฐพิจารณาการทำงานที่บ้านและขอความร่วมมือจากบริษัทเอกชนให้ทำงานที่บ้านเช่นเดียวกัน
4) เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี
5) เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวัดควันดำจากรถยนต์และการบังคับใช้คำสั่งห้ามใช้
มาตรการระยะกลางและระยะยาว ประกอบด้วย
1) ปรับปรุงมาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีกำมะถันไม่เกิน 10 ppm (เทียบเท่ามาตรฐาน EURO 5)
2) ปรับปรุงมาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐาน EURO 6
3) ปรับปรุงค่ามาตรฐาน PM 2.5 เฉลี่ยรายปีให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของ WHO Interim target-3
4) เร่งรัดแผนการเปลี่ยนรถโดยสาร ขสมก. ให้เป็นรถยนต์ที่มีมลพิษต่ำ
5) ปรับปรุงวิธีการและ ระยะเวลาการตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี
6) ควบคุมการนำเครื่องยนต์ใช้แล้วมาเปลี่ยนแทนเครื่องยนต์เก่าในรถยนต์ และ
7) ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมในการติดตั้ง Diesel Particulate Filter (DPF) ในรถยนต์ใช้งาน
ทั้งนี้ มาตรการทั้งหมดนี้จะต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป









