
ปลัด จ.ขอนแก่น ชี้แจงกรณีกำนันตำบลบ้านโคกเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม ถูกยัดยาบ้าคาบ้านพัก ยันไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เผยเป็นการขยายผลจับกุม จากคดียาเสพติดที่ซัดทอดต่อมา จ่อตั้ง กก. สอบข้อเท็จจริง
วันที่ 13 ธ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายณัฐวัฐ สาคุณ พระวุด ผช.ป้องกัน จ.ขอนแก่น พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ อ.ส.และเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของ นายพิไชย ธรแสน กำนัน ต.บ้านโคก ที่บ้านเลขที่ 23 ม.2 บ้านโสกนาดี ต.บ้านโคก อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น จนพบยาเสพติด จน นายพิไชย เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม ว่าถูกยัดยาบ้าคาบ้านพัก เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา

โดย ดร.อลงกต วรกี ปลัด จ.ขอนแก่น กล่าวถึงในเรื่องการเข้าตรวจค้นของผู้ช่วยป้องกัน จ.ขอนแก่น พร้อมพวกนั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบและถูกต้องตามขั้นตอนของการปฏิบัติหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติด เนื่องจากว่าก่อนหน้าที่จะเข้าตรวจค้นบ้านกำนันนั้น เจ้าหน้าที่ กกล.รส.จ.ขอนแก่น ได้จับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติดเป็นหนุ่มสาวสองคน ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลชื่อที่อยู่ได้ ซึ่งการจับกุมหนุ่มสาวนั้น ให้การซัดทอดถึงที่มาของยาเสพติดว่าซื้อจากใคร ที่ใด ซึ่งการซัดทอดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ประสานกำลังกันเพื่อเข้าตรวจค้นเป้าหมายตามคำให้การซัดทอดของผู้ต้องหา ซึ่งยังไม่มีการขอหมายค้น แต่เข้าตรวจค้นด้วยการใช้บัตร ป.ป.ส. ซึ่งมี นายณัฐวัฐ สาคุณ พระวุด ผช.ป้องกัน จ.ขอนแก่น เป็นหัวหน้าชุด ในการเข้าตรวจค้น และก็พบของกลางยาเสพติดในจุดดังกล่าว ซึ่งการพบยาเสพติดนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการยืนยันว่า กำนันเป็นคนเขี่ยของกลางออกมาเอง

ซึ่งในเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยจะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงให้กระจ่าง แต่ขอยืนยันว่า ชุดปฏิบัติการในครั้งนี้ ที่มี ผช.ป้องกัน จ.ขอนแก่น เป็นหัวหน้าชุดนั้น ทำหน้าที่ได้ถูกต้องตามขั้นตอน ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ไชย เป็นพื้นที่ระบาดของยาเสพติด เจ้าหน้าที่ กกล.รส. ได้ทำการสืบสวนข้อมูลผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมานาน 6 เดือน จนจับกุมสองหนุ่มสาวได้และขยายผลสู่การตรวจค้นบ้านกำนัน กระทั่งพบของกลางยาบ้า จำนวน 45 เม็ด เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจค้น ยึดของกลาง บันทึกจับกุมและส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ฉะนั้นในกรณีการค้นบ้านกำนัน ต.บ้านโคก ในครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบธรรม ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งใคร และขอให้ทุกอย่างไปว่าการตามกระบวนการทางยุติธรรม ให้ศาลเป็นผู้พิจารณา









