อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า วันที่ 12 ส.ค. อาจมีมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลเข้ามาเติมในเมืองเพชรบุรีเพิ่ม และคาดว่าอาจท่วมอำเภอเมืองบางจุด 20-30 ซม. และอาจท่วมนาน 7-10 วัน โดยระดับน้ำที่แม่น้ำเพชรบุรีช่วงอำเภอเมืองตั้งแต่เมื่อวานนี้ก็เพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เช้าวันนี้ (9ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำเพชรบุรี ช่วงตัวเมืองเพชรบุรี ระดับน้ำค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ที่ระดับต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 1 เมตร และจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้ ทำให้ทางเทศบาลเพชรบุรีได้มีการปรับระดับธงเตือนประชาชน จากระดับสีเหลือง เป็นสีแดง ซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต ทำให้ชาวบ้านในตัวเมืองเพชรบุรี เดินทางมาเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำที่บริเวณสะพานต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ชาวเมืองเพชรบุรีบางส่วน สะท้อนว่า หากน้ำเอ่อล้นเข้ามาตามคำแจ้งเตือน ตามที่กรมชลประทานได้คาดการณ์จริงๆ ก็จะไม่ส่งผลกระทบเท่ากับปีที่ผ่านมา เพราะว่าอย่างน้อยก็มีการจัดการที่ดี และได้มีการเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว
ขณะที่ชาวชุมชนบ้านกุ่ม อ.เมืองเพชรบุรี ได้เตรียมความพร้อมรับมือ คอยเฝ้าดูระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ชุมชนจะมีผนังกั้นน้ำไว้ แต่เนื่องจากเป็นที่ลุ่มต่ำ ดินทราย ซึ่งน้ำอาจซึมล้นใต้ผนังกั้นน้ำได้ พวกเขาจึงต้องนำกระสอบทรายมาปิดไว้ และเก็บของขึ้นที่สูงกว่าระดับน้ำที่เคยท่วม เมื่อปีที่ผ่านมา
คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักช่าง เทศบาลเมืองเพชรบุรี นำกระสอบทรายกว่า 100 กระสอบมาวางเรียงภายในท่อระบายน้ำ บริเวณหลังจวนผู้ว่าจังหวัดเพชรบุรี ริมแม่น้ำเพชรบุรี เพื่อป้องกันน้ำผุดขึ้นมาท่วมถนน เหมือนเช่นปีที่ผ่านมาหลังพบว่า มีปริมาณน้ำไหลเอ่อเข้าท่อระบายน้ำ ซึ่งจากการสำรวจพบว่ายังมีจุดเสี่ยงที่ต้องดำเนินการ เช่นเดียวกับอีก 8 จุด เนื่องจากท่อระบายน้ำในตัวเมืองเพชรบุรีอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง และเชื่อมโยงกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพชรบุรี ตระเวนตรวจความพร้อมทั่วเมือง เพื่อเฝ้าระวังระดับน้ำใน 13 จุด ตลอด 24 ชั่วโมง หากพบปริมาณน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีเอ่อล้น ในปริมาณที่อาจส่งผลกระทบก็จะเดินเครื่องสูบน้ำออกทันที
