
ปิดไฟลดโลกร้อนในกรุงเทพฯ ปี 62 เท่ากับลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 749 ตัน คิดเป็นมูลค่า 6.05 ล้านบาท แต่ความร่วมมือลดลงจากปีที่แล้ว
วันที่ 31 มี.ค. นายธีระวัฒน์ เทพอำนวยสุข รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยผลจากกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour)” ภายใต้แนวคิด “ปิดเพื่อโลก เปลี่ยนเพื่ออนาคต” ปี 2562 ในวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 1,514 เมกะวัตต์ เท่ากับลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 749 ตัน คิดเป็นมูลค่า 6.05 ล้านบาท น้อยกว่าปี 2561 ที่การปิดไฟ 1 ชั่วโมง สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 2,002 เมกะวัตถ์ เท่ากับลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 1,026 ตัน คิดเป็นมูลค่า 7.86 ล้านบาท
โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปีนี้มีสถานที่ต่างๆ ร่วมกิจกรรมปิดไฟในเชิงสัญลักษณ์ อาทิ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เสาชิงช้า สะพานพระราม 8 และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง) รวมทั้งมีองค์กรภาครัฐ เอกชน กว่า 500 แห่งร่วมกิจกรรม อีกทั้งมีการปิดไฟถนนเขตละ 1-2 ถนน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กทม. รณรงค์ปิดไฟ 1 ชั่วโมง ลดโลกร้อน 30 มี.ค.นี้ พร้อมกันกับเมืองใหญ่ทั่วโลก









