
ป.ป.ท. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ป่าภูเรือ ยึดคืนที่ดินกว่ากว่า 2,700 ไร่ มูลค่า 400 กว่าล้านบาทคืนสู่สมบัติชาติ เตรียมรายงานผลให้ คสช.ทราบต่อไ
วันที่ 27 ส.ค. 2561 พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวจ้องร่วมกับ กอ.รมน.จว.เลย สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 7 (ภูเรือ) และตำรวจ สภ.ภูเรือ ร่วมประชุมหารือ และปฏิบัติการลงพื้นที่โดยอาศัยอำนาจตามคำสั่ง คสช. ที่ 69/2557 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2557 เพื่อตรวจสอบเรื่องร้องเรียนกรณีการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในท้องที่ตำบลปลาบ่า และตำบลร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย โดยมีการนำแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ซึ่งอยู่ในท้องที่ ต.โพนสูง อ.ด่านซ้าย จ.เลย มาออกในท้องที่ อ.ภูเรือ ตั้งแต่ปี 2533 รวมจำนวน 63 แปลง เนื้อที่ 2,777 ไร่ สืบเนื่องจากการที่สำนักงาน ป.ป.ท. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบในเขตพื้นที่ป่าภูเขาหนองปาด (ภูพ้อย) อ.ภูเรือ จ.เลย เมื่อปี 2560 ต่อมาได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยังมีที่ดิน น.ส.3 ก. จำนวน 63 แปลง เนื้อที่ 2,777 ไร่ ในพื้นที่ดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ
พ.ท.กรทิพย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวมีการนำ ส.ค.1 จากพื้นที่อื่นมาเป็นหลักฐานในการออกเอกสารสิทธิจำนวน 31 แปลง ส่วนอีก 32 แปลง ไม่ปรากฏสารบบการออก น.ส.3 ก. ซึ่งที่ดินบริเวณดังกล่าวมีมูลค่าในการซื้อขายแปลงละประมาณ 150,000 บาท มูลค่ารวม 416.5 ล้านบาท โดยมีชื่อบุคคลหนึ่งใน จ.เลย เป็นผู้ครอบครอง จากนั้นเจ้าของที่มาพบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ยึดที่ดินทั้งหมดเพื่อนำกลับไปเป็นของหลวงและทั้งหมด เนื่องจากไม่ทราบว่าเอกสารสิทธิออกโดยมิชอบตั้งแต่ปี 2533 ส่วนการเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ดิน ที่ออกเอกสารสิทธิดังกล่าว ไม่สามารถดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ ตามมาตรา 157 ได้ เนื่องจากหมดอายุความตั้งแต่ปี 2548 ไปแล้ว หลังจากนี้จะนำเรื่องรายงานให้หัวหน้า คสช.เพื่อดำเนินการนำที่กลับคืนหลวง

ขณะที่นายปิยะภูมิ ถวิลไพร นักวิชาการที่ดินชำนาญการ กล่าวว่า ที่แปลงออกเอกสารสิทธิในช่วงปี 2533 มีการออกเอกสารสิทธิโดยไม่ชอบจริง หลังจากนี้จะดำเดินส่งเรื่องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินการส่งเรื่องไปยังกรมที่ดินให้พิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิพื้นที่ 2,700 ไร่ ที่ออกโดยมิชอบคืนให้กับชาติต่อไป
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการนำ ส.ค.1 จากพื้นที่อื่นมาเป็นหลักฐานในการออกเอกสารสิทธิจำนวน 31 แปลง ส่วนอีก 32 แปลง ไม่ปรากฏสารบบการออก น.ส.3 ก. ซึ่งที่ดินบริเวณดังกล่าวมีมูลค่าในการซื้อขายแปลงละประมาณ 150,000 บาท มูลค่ารวม 416.5 ล้านบาท
ขั้นตอนต่อไป สำนักงาน ป.ป.ท. จะรายงานผลการตรวจสอบไปยังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแจ้งให้กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดินในการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบกลับคืนเป็นสมบัติของชาติต่อไป










