
ประเด็นคือ – เจ้าอาวาสวัดสามพระยา 1 ในพระผู้ใหญ่ที่ถูกร้องทุกข์ ระบุ ยังไม่ได้รับทราบข้อหา ขณะที่ ผอ.พศ. เลื่อนการเข้าแจ้งความเพิ่มเติมอย่างไม่มีกำหนด
ความเคลื่อนไหวเรื่องเงินทอนวัด (ล็อต 3) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย. พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) เลื่อนการเข้าพบ พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) จากที่กำหนดการจะเข้าแจ้งความอีก 7 วัด และให้ข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากติดภารกิจด่วน ไม่สามารถมาได้ตามนัด และยังไม่แจ้งว่า จะเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกเมื่อใด

(ภาพจาก พศ.)
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ผู้อำนวยการ พศ. ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ ปปป. เพื่อขอให้เอาผิดพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ประกอบด้วย 1. พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา 2. พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) 3. พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. รวมทั้ง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ อีก 2 รูป ฐานทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม (ในขณะนี้เป็นเพียงการกล่าวหา)
ก่อนหน้านี้มีรายงานความเคลื่อนไหวของคณะสงฆ์บางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการแจ้งความเอาผิดในครั้งนี้ และนัดหมายจะเดินทางไปที่ บก.ปปป. ย่านแจ้งวัฒนะ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ มีการเลื่อนการเข้าแจ้งความ

(ภาพประกอบ)
ขณะที่ พระพรหมดิลก วัดสามพระยา หนึ่งในพระผู้ใหญ่ ที่ถูก ผอ.พศ. ร้องทุกข์ เปิดเผย เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ว่า ยังไม่ได้รับทราบข้อกล่าวหา จึงไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ พร้อมระบุว่า โรงเรียนพระปริยัติธรรมที่ถูกกล่าวหา มีการทุจริตเงินทอนวัดนั้น เป็นเพียงโรงเรียนสอนเรื่องหลักธรรมตามหลักพระพุทธศาสนาแก่ภิกษุและสามเณรตามปกติทั่วไป ไม่มีอะไรผิดปกติ
เมื่อวันที่ 17 เม.ย. มีความเคลื่อนไหวที่ เพจเฟซบุ๊กของวัดสามพระยา วรวิหาร โดยได้นำบทกลอน จากเรื่องศรีปราชญ์ มาลงไว้ว่า “ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร เราชอบ เราบ่ผิดท้านมล้าง ดาบนี้คืนสนอง.”
https://www.facebook.com/watsamphraya/posts/1906280236050008
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 19 เม.ย. เฟซบุ๊กของหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องนี้ว่า “จะรอดไหมนี่ ไม่ใช่ พระเถระทั้ง 3 รูป แต่เป็น ผอ พระพุทธศาสนา พ.ต.ท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์”
https://www.facebook.com/chulcherm.yugala/posts/10155855337388371

สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ
- รัฐบาลยืนยัน กรณีเงินทอนวัด ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับสำนักงานพระพุทธศาสนา กล่าวย้ำถึงการสอบสวนจะแยกส่วนกัน ระหว่างกระบวนการยุติธรรมและคณะสงฆ์ และยืนยันว่า จะต้องเป็นไปตามความถูกต้อง เป็นธรรม ตรงไปตรงมา และโปร่งใส โดยทุกอย่างต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน และกระบวนการยุติธรรม เพราะอีกบทบาทหนึ่งของรัฐบาล คือการส่งเสริมสนับสนุนให้ศาสนาเจริญรุ่งเรืองต่อไป

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่น ในกระบวนการสอบข้อเท็จจริงพร้อม มองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและรอบด้าน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง และไม่ให้ส่งผลกระทบกับสภาพจิตใจประชาชน
ทั้งนี้ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับ สั่งการไปยังรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในการกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนา ให้ดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และมั่นใจว่าผลออกมาชัดเจนอย่างไร ประชาชนคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ คงจะเข้าใจด้วย.









