ประเด็นคือ – เกิดเหตุสลด ผอ.โรงพยาบาลสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตปริศนาในบ้านพัก เบื้องต้นคาดโรคประจำตัวคร่าชีวิต ด้านชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่สุดอาลัย “คุณหมอโดเรมอน”
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 60 เวลา 13.00 น. พ.ต.ท.ชุมพล วันชัย พนักงานสอบสวน สภ.สหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสหัสขันธ์ ว่าพบศพ นพ.ธิติพงศ์ มณีวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสหัสขันธ์ อายุ 43 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในบ้านพักโรงพยาบาล จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชันสูตรและพิสูจน์หลักฐานไปยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักสองชั้นของโรงพยาบาลสหัสขันธ์เลขที่ 48/1 เทศบาลตำบลสหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ นพ.ธิติพงศ์ ในสภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงขาสั้นลายเหลืองเทา นอนคว่ำหน้าบนที่นอน มีเลือดไหลออกมจากจมูก และใกล้แขนซ้ายพบโทรศัพท์
พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ยี่วาศรี รอง ผกก.สส.รักษาราชการแทน ผกก.สภ.สหัสขันธ์ กล่าวว่า เบื้องต้นในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือการงัดบ้านแต่อย่างใด เพียงแต่บริเวณหน้าประตูบ้านนั้นทราบว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสหัสขันธ์ ช่วยกันพังประตูเข้ามา เนื่องจากปกติหมอธิติพงศ์จะเป็นคนตื่นเช้า และรีบไปดูแลคนไข้เป็นประจำ แต่มาในวันนี้ ผิดสังเกต จึงได้พากันไปตะโกนเรียกแต่ก็ไม่ตอบ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจึงได้ตัดสินใจพังประตูบ้านเข้าไป ก็พบว่าหมอธิติพงศ์เสียชีวิตแล้ว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้กำชับให้หาสาเหตุแน่ชัด ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้ามาร่วมทำการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป
สำหรับ นพ.ธิติพงศ์ มณีวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสหัสขันธ์ เป็นชาวจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นหมอใหญ่ที่มีความรู้ความสามารถ และเคยไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ เเละด้วยนิสัยไมตรีที่ดีจึงเป็นที่รักของกลุ่มเพื่อนหมอและพยาบาล และได้รับความไว้วางใจจากสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสหัสขันธ์
นอกจากความสามารถในการรักษาคนไข้ทั่วไป ยังได้รับการขนานนามว่า “คุณหมอโดเรมอน” เพราะหากคนไข้รายใดผ่านมือจะมีอาการที่ดีขึ้น แต่มาในระยะหลัง กลุ่มเพื่อนๆ ทราบว่า หมอธิติพงศ์มีปัญหาในเรื่องสุขภาพ เป็นโรคความดัน แต่ด้วยความรับผิดชอบคนไข้ จึงนอนดึก และคาดว่าด้วยปัญหาความดัน และการอดนอนสะสม อาจจะทำให้ร่างกายรับไม่ไหว จนเสียชีวิตในครั้งนี้
