
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแทบช็อกออกไปช่วยงานแต่งได้รับแจ้งทางไลน์ไฟไหม้บ้านวอดโชคดีแม่วัย 78 และหลาน 4 คน หนีออกมาได้
วันที่ 9 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่บ้านหว่าน ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบลเจริญสุข และ อบต.พื้นที่ใกล้เคียง เร่งระดมรถน้ำเข้าช่วยเหลือระงับเหตุเพลิงไหม้อย่างเร่งด่วน
ที่เกิดเหตุป็นบ้านสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 25 หมู่ 4 บ้านหว่าน พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้เร่งช่วยกันระดมฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ตัวบ้าน และข้าวของภายในบ้านก็ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมดแล้ว หลังเพลิงสงบตรวจสอบภายในไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตภายในบ้านที่เกิดเหตุแต่อย่างใด จากการตรวจสอบทราบว่าบ้านหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งขณะเกิดเหตุเจ้าของบ้านไม่อยู่เพราะออกไปช่วยงานแต่งงานอีกหมู่บ้าน

จากการสอบถามยายดำ จีนโน อายุ 78 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าตนเองออกไปนั่งอยู่บ้านเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ใกล้กัน อยู่ๆ ก็เห็นไฟไหม้บ้านของตัวเองก็ตกใจเพราะมีหลาน 4 คนอยู่ภายในบ้าน เมื่อตั้งสติได้ จึงรีบไปดึงเบรกเกอร์ไฟลง ก่อนจะตะโกนเรียกหลายทั้ง 4 คนให้รีบออกจากบ้าน ซึ่งตอนแรกเพื่อนบ้านก็ช่วยกันนำน้ำมาสาดดับไฟแล้ว แต่ก็ไม่สามารถดับได้เพราะบริเวณชั้นสองเป็นไม้ไฟจึงลุกลามอย่างรวดเร็ว

คุณยายดำ จีนโน วัย 78 ปี
ด้าน น.ส.วารินทร์ จีนโน อายุ 48 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ตาเป๊ก เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้าน เพราะออกไปช่วยงานแต่งงานอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งเดินทางไปถึงบ้านงานได้ไม่นาน ก็ได้รับแจ้งทางไลน์กลุ่มของปกครองอำเภอ ว่าเกิดเหตุไฟไหม้บ้านของตนเอง จึงรีบเดินทางกลับมาดูบ้าน แต่พอกลับมาถึงก็พบว่าทั้งบ้านและข้าวของถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมดแล้ว แต่ยังโชคดีที่แม่และหลานหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย

น.ส.วารินทร์ จีนโน อายุ 48 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของบ้าน
ทั้งนี้ทาง น.ส.เพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ หลังทราบข่าวก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไประงับเหตุทันที พร้อมทั้งจะได้หาแนวทางช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในครั้งนี้ด้วย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้ารัดวงจร อย่างไรก็ตามต้องรอการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่วิทยาการอีกครั้ง









