
ประเด็นคือ – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่โต้กลับ กรณีข่าวอ้างเว็บไซต์ต่างประเทศตรวจวัดพบดัชนีเมืองเชียงใหม่แย่ที่สุดในโลก เผยไม่ใช่เรื่องจริง ยืนยันเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด หลังปีนี้พบจุดความร้อน 314 จุด เพิ่มขึ้นจากปีก่อน
วันที่ 8 มี.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าสำหรับกรณีที่มีสื่อท้องถิ่นรายหนึ่งนำเสนอข่าวโดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์และแอปพลิเคชันตรวจวัดคุณภาพอากาศของต่างประเทศ ระบุว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของ จ.เชียงใหม่ วันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา มีดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ AQI แย่ติดอันดับ 1 ของโลกนั้น ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของวันที่ 6-7 มี.ค. ที่ผ่านมา ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ แม้ว่าเชียงใหม่จะมีค่ามลพิษเกินค่ามาตรฐานอยู่ที่ 120-123 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ก็พบว่ามีหลายจังหวัดที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และ AQI สูงกว่า จ.เชียงใหม่ มาก แต่ไม่ได้ถูกจัดอันดับดังกล่าว

ทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่า เว็บไซต์ดังกล่าวมีวิธีการตรวจวัดอย่างไร โดยเบื้องต้น ในส่วนของ จ.เชียงใหม่ อ้างอิงผลการตรวจวัดคุณภาพของกรมควบคุมมลพิษเป็นหลัก และพร้อมจะใช้ข้อมูลผลการตรวจวัดจากสถาบันการศึกษาหรือแหล่งอื่น หากได้รับการรับรองจากกรมควบคุมมลพิษ
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันตรวจวัดคุณภาพอากาศ AirVisual ตามที่มีการอ้างอิงข้อมูลว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 61 มีดัชนีคุณภาพอากาศแย่ติดอันดับ 1 ของโลกนั้น พบว่า การนำเสนอข่าวอาจจะมีการนำเสนอข้อมูลที่ได้จากแหล่งดังกล่าวไม่ครบถ้วน โดยพบว่าตารางจัดอันดับผลการตรวจวัด AQI เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) ในแอปพลิเคชันดังกล่าว จ.เชียงใหม่ อยู่ที่อันดับ 5 วัดค่าได้ 174 โดยที่ผลการตรวจวัด AQI ของ จ.ลำปาง ณ เวลาเดียวกัน วัดค่าได้ 194 ซึ่งสูงกว่า แต่ไม่ได้ถูกจัดอันดับอยู่ในตารางด้วย

อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่ จ.เชียงใหม่ ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง และในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ค่ามลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐาน 2 วันติดต่อกัน แต่ในช่วงเช้าวันนี้ พบว่าคุณภาพอากาศยังไม่เกินค่ามาตรฐาน โดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลาง จ.เชียงใหม่ ต.ช้างเผือก วัดได้ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ แต่ยังคงมีแนวโน้มว่าจะเกินค่ามาตรฐาน เนื่องจากพบว่าเช้านี้ยังมีหมอกควันสะสมในอากาศหนาทึบ จนแสงอาทิตย์ส่องลอดลงมาได้น้อย แต่ที่ค่ามลพิษลดลง อาจเป็นผลมาจากเริ่มมีกระแสลมพัดผ่านช่วยชะล้างหมอกควันออกจากพื้นที่ในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา









