
แม้ว่ารัฐบาลจะดึงร่างแก้ไขที่จะบังคับให้ขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง กลับไปพิจารณาให้เกิดความเหมาะสม แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคอุบัติใหม่ คัดค้านการออกกฎหมายขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงเพราะมองว่าสังคมไทยยังไม่พร้อม และอาจสุ่มเสี่ยงทำให้เกิดโรคพิษสุนัขบ้าระบาดมากขึ้น ด้านหน่วยงานท้องถิ่นบางส่วน โดยเฉพาะ กทม. ยืนยันว่าจะเดินหน้ารณรงค์ให้คนนำสัตว์เลี้ยงมาขึ้นทะเบียนอย่างต่อเนื่อง
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคพิษสุนัขบ้า ไม่เห็นด้วยกับการผลักดันขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงในเวลานี้ เพราะประเทศไทยยังไม่มีความพร้อม เนื่องจากปัจจุบัน สังคมไทยยังอาศัยความร่วมมือของประชาชน ที่มีความทารุณสัตว์ เลี้ยงสุนัขและแมวจำนวนมากๆ
หากมีการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงจริง และให้ขึ้นทะเบียน 450 บาทต่อตัว จะยิ่งสร้างปัญหา และเกิดการทิ้งสัตว์เลี้ยงมากขึ้น สุดท้ายสัตว์เหล่านี้จะไร้คนดูแลมีโอกาสเป็นโรคพิษสุนัขบ้ามากขึ้น และเสี่ยงที่จะกัดคน กัดเด็กมากกว่าเดิม
ด้าน นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกฎหมายบังคับการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง ว่า ตามข้อเท็จจริง กทม.ก็มีข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร กำหนดให้เจ้าของต้องนำสุนัขไปจดทะเบียนทำบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์ ที่กองสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัยและศูนย์บริการสาธารณสุขอยู่แล้ว โดยยกเว้นค่าใช้จ่าย
ที่ผ่านมา กทม.รณรงค์ให้ประชาชนนำสัตว์เลี้ยงมาขึ้นทะเบียนต่อเนื่อง พร้อมจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ออกบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ทำหมันและฝังไมโครชิปในสุนัขและแมว ออกบริการประชาชนฟรี
ซึ่งหากมีกฎหมายบังคับการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงและกำหนดค่าธรรมเนียม กทม.ขอศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจท้องถิ่นอยู่แล้ว กทม.อาจจะนำประเด็นดังกล่าวมาพิจารณาว่ามีความเหมาะสม เกิดผลกระทบ หรือภาระต่อประชาชน อย่างไรบ้าง
ปัจจุบันจำนวนสัตว์เลี้ยงใน กทม.ที่ขึ้นทะเบียนราว 50,000 ตัว ของจำนวนครัวเรือน 2,500,000 คน แต่คาดจะมีประมาณ 100,000 ตัว









