ตำรวจกองปราบนำ 8 ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัดฝากขังผัดแรก ขณะที่ทีมทนายความเตรียมตั้งหลักต่อสู้ข้อกล่าวหา และตั้งข้อสังเกตการปฎิบัติหน้าที่ ผอ.สำนักงานพระพุทธฯ คนปัจจุบัน
หลังจากที่ วานนี้ (1 ส.ค.) เจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้นำหมายจับและหมายค้นกระจายกำลังเข้าจับกุม 10 ผู้ต้องหา อดีตข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. เกี่ยวข้องในคดีทุจริตเงินทอนวัดในหลายจังหวัด ทั้ง กทม. ขอนแก่น นครปฐม และอุบลราชธานี โดย 10 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย
1.นายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.)
2.นายชยพล พงษ์สีดา (อดีต รอง ผอ.พศ.)
3.น.ส.ประนอม คงพิกุล (อดีต รอง ผอ.พศ. และ อดีต ผอ.พศ.จ.สมุทรปราการ)
4.นายแก้ว ชิดตะขบ (อดีต ผอ.พศ.จ.สมุทรสงคราม)
5.นายณรงค์เดช ชัยเนตร (อดีต ผอ.พศ.จ.สิงห์บุรี)
6.นายบุญเลิศ โสภา (อดีต ผอ.พศ.จ.ลำปาง)
7.นายวสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ (อดีต ผอ.ส่วนบรูณะพัฒนาวัด)
8.นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี (อดีต พศ.จ.นครปฐม)
9.นางพรเพ็ญ กิติธรางกูร (นักวิชาการศาสนา)
10.นายเจษฎา วงศ์เฆม (ผู้รับเหมา)
แต่มี 1 คน ที่ยังไม่สามารถจับได้ คือ นางสาวประนอม คงพิกุล อดีตรอง ผอ.พศ. และ อดีต ผอ.พศ.จ.สมุทรปราการ ที่มีข่าวว่าได้เดินทางไปประเทศฮ่องกง ตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา และตอนนี้ยังไม่กลับเข้าไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงทยอยคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ที่จับได้ในช่วงเช้ามาสอบปากคำและแจ้งข้อหาที่กองปราบปราม ส่วนอีก 1 คน คือ นายเจษฎา อยู่ระหว่างการนำตัวมาที่กรุงเทพมหานคร
สำหรับข้อหา อดีตข้าราชการ พศ.ส่วนใหญ่ ถูกดำเนินคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ส่วนผู้รับเหมาอีก 1 ราย คือ นายเจษฎา ถูกแจ้งข้อหาสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด
พนักงานสอบสวนได้มีความเห็นคัดค้านการประกันตัว โดยพนักงานสอบสวนให้เหตุผลว่า เกรงว่าผู้ต้องหาจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้งผู้ต้องหาบางคนมีหมายจับติดตัวหลายคดี
ความคืบหน้า ล่าสุด วันที่ 2 ส.ค.61 เมื่อเวลา 10.30 น. ตำรวจกองปราบได้คุมตัว 8 ผู้ต้องหา ที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอนวัด ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝากขังผัดแรก
ซึ่งก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังนั้น ทางด้าน นายณพล ใบเงิน ทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ก็ได้เดินทางมาเข้าเยี่ยมลูกความ พร้อมกับเปิดเผยว่า ในคดีนี้ลูกความของเขาต้องการยืนยันถึงความบริสุทธิ์ และพร้อมต่อสู้ทุกข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ ตัวเขาเองยังได้ตั้งข้อสังเกตทางคดีว่าเหตุใด พันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เลือกแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสเพียงบางวัดเท่านั้น ทั้งที่ในใบของบประมาณสนับสนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม มีวัดที่ได้ยื่นของบประมาณและได้รับการอนุมัติ 8 วัด ในเอกสารชุดเดียวกัน
ซึ่งขณะนี้ทีมทนายความอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารเพื่อที่จะพิจารณาว่าจะดำเนินการกับผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ส่วนแนวทางการต่อสู้คดีในชั้นศาลนั้น ทีมทนายจะเรียกเจ้าอาวาสทั้ง 8 วัดที่ได้รับงบเงินอุดหนุนมาเป็นพยานในชั้นศาล โดยเจ้าอาวาสทั้ง 8 วัดเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมด
สำหรับการยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คนในวันนี้ ทางญาติได้เตรียมหลักทรัพย์ และเงินสด เพื่อเป็นหลักประกันต่อศาลไว้แล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่
นอกจากนี้นายณพล ยังระบุถึงผู้ต้องหาอีกหนึ่งราย คือ นางสาวประนอม คงพิกุล อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ที่ยังไม่ถูกควบคุม ว่ายังสามารถติดต่อทนายความของนางสาวประนอมได้อยู่ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนางสาวประนอมโดยตรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองปราบบุกค้น 10 วัด คดีเงินทอนวัดล็อต 3 จับกุมอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ
