
ขอบคุณภาพจาก Js100
ประเด็นคือ – ฝุ่นละอองขนาดเล็กในกทม. เกินมาตรฐาน 5 สถานี ชี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังสภาพอากาศเปลี่ยน ตอนเช้าอากาศเย็นมีหมอก แต่อุณหภูมิ – ความชื้นสูงขึ้น
กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ ฝุ่นละออง PM 2.5 (ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็นไม่เกิน 2.5 ไมครอน)ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประจำวันที่ 8 ก.พ. 2561 ณ เวลา 8.00 น. พบว่า
- ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 69-94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกินเกณฑ์มาตรฐาน คือ 50 มคก./ลบ.ม. จำนวน 5 สถานี ได้แก่ บริเวณเขตบางนา เขตวังทองหลาง ริมถนนอินทรพิทักษ์ ริมถนนพระราม 4 และริมถนนลาดพร้าว โดยปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่ กทม. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิ จะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ความชื้น 88% ลักษณะเช่นนี้ จะทำให้ฝุ่นละอองในบรรยากาศสะสมเพิ่มขึ้นได้
- ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด หากจำเป็นต้องออกจากอาคาร ควรใส่หน้ากากอนามัย และหากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ รวมทั้ง ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการกำกับดูแลกิจกรรมต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองในพื้นที่ โดยเฉพาะการใช้ยานพาหนะ การเผา และการก่อสร้าง เพื่อที่จะช่วยลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ลงได้
https://www.facebook.com/PCD.go.th/posts/1601714289911952
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมมลพิษ ได้ตรวจพบฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา
#อย่าลืมนะคะ เวลาใส่ผ้าปิดปากปิดจมูกกันต้องแน่ใจว่าหน้ากากที่เราใส่สามารถกันฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอนได้ //ซึ่งหน้ากากทั่วไปกันได้แค่ฝุ่นละอองขนาดใหญ่เท่านั้น pic.twitter.com/gXXenuInH9
— Greenpeace Thailand (@greenpeaceth) 8 กุมภาพันธ์ 2561
ขอบคุณภาพปก js100 / Thai PBS









