
ประเด็นคือ – เกิดเหตุฝ้าเพดานห้องเย็นโรงเชือดหมูที่ จ.สมุทรปราการ ยุบตัวถล่ม ทำให้คนงานตกลงมา บาดเจ็บ 8 ราย ส่วนสาเหตุคาดฝ้ามีสภาพเก่าอาจรับหนักหนักไม่ไหว
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 ม.ค.61 ร.ต.อ.ภัชรพร นพพันธ์สวัสดิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีคนงานตกจากฝ้าหลังคาลงมากระแทกพื้นด้านล่างได้รับบาดเจ็บหลายราย ภายในบริษัท พี.เอส.ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด เลขที่ 949,949/1 , 999 หมู่ 7 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และมูลนิธิร่วมกตัญญูเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลรัทรินทร์บางปู เดินทางตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบผู้ได้บาดเจ็บรวมทั้งหมด 8 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 6 ราย นั่งอยู่หน้าไซต์งาน และยังพบผู้รับบาดเจ็บ อีก 1 ราย มีอาการแน่นหน้าอกนอนหงายอยู่กับพื้น ส่วนบาดเจ็บอีก 1 ราย แขนซ้ายหักนอนอยู่บนโต๊ะ เจ้าหน้าที่ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบลำเรียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งรักษาที่โรงพยาบาลรัทรินทร์บางปู ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ นายเอี้ยโอน อายุ 35 ปี ชาวเมียนมา , นายมณฑล นุ่มทองคำ อายุ 23 ปี , นายภัทรพล เนตรทิพย์ อายุ 20 ปี , นายสิทธิโชค ออนอิน อายุ 19 ปี , นายชยธร ลาภไหลมา อายุ 33 ปี , นายอดิศร พามี อายุ 19 ปี , นายพินิจ ยอดนารี อายุ 25 ปี และนายพิชิต วงกันหา อายุ 20 ปี

จากการสอบสวน นายอดิศร พามี อายุ 19 ปี หนึ่งในผู้ได้รับบาด ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและเพื่อนร่วมงานรวมทั้งหมด 7 คน ได้ช่วยกันแบกเครื่องส่งน้ำยาห้องเย็นซึ่งเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อเอาขึ้นไปติดตั้งที่บริเวณใต้ฝ้าด้านบนผนังห้องเย็นดังกล่าว ในระหว่างที่พวกตนนำเครื่องจักรตัวดังกล่าวขึ้นไปด้านบนเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างปลดเชือกเพื่อที่จะเอาเข้าไปติดตั้งอยู่นั้น อยู่ๆ พื้นฝ่าด้านบนได้เกิดยุบตัวหลุดออกมาเป็นแผ่นขนาดใหญ่ทำงานตนและคนงานทั้งหมดร่วมทั้งเครื่องจักรตัวดังกล่าวตกลงมากระแทกพื้นด้านล่างทั้งหมด ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 8 ราย แขนหักและแน่นหน้าอกดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ในระหว่างผู้บาดเจ็บนำเครื่องจักรขึ้นไปบนใต้ฝ้าแล้วบวกกำลังนำหนักผู้บาดเจ็บทั้งหมดและฝ่าที่อยู่ในสภาพเก่าอาจรับหนักหนักผู้บาดเจ็บไม่ไหว จึงได้หลุดออกมาทั้งแผ่นและถล่มลงมา ทำให้คนงานทั้งหมดร่วมทั้งเครื่องจักรตกลงมากระแทกพื้นได้รับความเสียหาย ส่วนตัวคนงานได้รับบาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป










