
ประเด็นคือ – ชาวบ้าน จ.พิษณุโลก พบโครงกระดูกมนุษย์ ใกล้บึงน้ำสาธารณะ คาดเป็นพระสงฆ์ในหมู่บ้านเพราะหายไปนาน 3 เดือน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 ม.ค. 2561 พ.ต.ต.(หญิง) กัลยาณี ท่าโพธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งมีบุคคลพบโครงกระดูกมนุษย์ บริเวณใกล้เคียงบึงน้ำสาธารณะ ม.2 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน

ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ป่ารกร้างพบโครงกระดูกมนุษย์ส่วนลำตัวและขา ห่างออกไปพบกระโหลกมนุษย์ มีสภาพแห้งไม่เหลือเนื้อติดอยู่กับกระดูกถูกไฟจากการเผาป่าไหม้ ใกล้กันพบรองเท้าจีวร สบง อังสะ ประคตเอว ถูกไฟไหม้เพียงเล็กน้อย คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 – 3 เดือน หลังจากนั้นจึงได้แจ้งตํารวจวิทยาการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ลงพื้นที่เก็บหลักฐานอย่างละเอียด ก่อนจะส่งไปยังนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช ให้แพทย์ทำการตรวจมวลกระดูกและดีเอ็นเอ เพื่อหาอัตลักษณ์ส่วนบุคคล

นายณรงค์ ดวงทา อายุ 48 ปี ผู้พบโครงกระดูก เล่าว่า ตนได้ออกจากบ้านเพื่อมาดักหนูนาบริเวณจุดเกิดเหตุตนเดินวางกับดักหนูไปเรื่อยๆจนเดินมาพบจีวรและโครงกระดูกมนุษย์ หลังจากนั้นตนจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
สอบถามนางวิเชียร รักษาคมอายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 382 ม.3 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เล่าว่า ตนเคยเห็นพระรูปหนึ่งเดินบิณฑบาตอยู่ภายในบริเวณหมู่บ้าน อายุประมาณ 70 ปี มีอาการหลงๆ ลืม เคยไปจำวัดอยู่หลายวัดแต่ก็อยู่ได้ไม่นานต้องออกมา ต้องอาศัยหลับนอนตามศาลา จนมาช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา กลับไม่พบพระรูปนี้เดินออกบิณฑบาตเหมือนเคย ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าโครงกระดูกนี้อาจจะเป็นพระรูปนี้ก็ได้

จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า พระรูปนี้มีอาการหลงลืม เนื่องจากอายุมากอาจจะหลงเดินมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นป่ารกทึบแล้วอาจจะเป็นลม ไม่มีใครมาเห็นจึงเสียชีวิตเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน จนมีคนมีจุดไฟเผาป่าและมีคนมาพบเห็นก็เหลือแต่เพียงโครงกระดูก ส่วนหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง









