
ประเด็นคือ – กระทรวงสาธารณสุข เร่งทำความเข้าใจ ‘พิษสุนัขบ้า’ หลังผลสำรวจพบ ประชาชนร้อยละ 60 เข้าใจผิดคิดว่าโรคพิษสุนัขบ้ารักษาหายได้ จึงไม่ไปฉีดวัคซีน ทำให้เสียชีวิต
วันที่ 10 มี.ค. 2561 สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ ยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดมีในปี 2561 นี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ที่ จ.สุรินทร์ สงขลา และตรัง โดย 2 รายลูกสุนัขกัด มีแผลเล็กน้อย ส่วนอีก 1 รายเป็นสุนัขมีเจ้าของกัด ทั้ง 3 รายไม่ไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนประชาชนว่า หากถูกสุนัข-แมว กัดหรือข่วน แม้จะเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านหรือเป็นลูกสุนัข มีโอกาสเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ ต้องไปฉีดวัคซีนให้ครบชุด และตรงตามนัด จึงจะได้ผล หากติดเชื้อพิษสุนัขบ้า และปล่อยทิ้งไว้จนเชื้อเข้าสู่ระบบประสาท แสดงอาการป่วยแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ ผู้ป่วยจะเสียชีวิตทุกราย

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผลสำรวจความรู้เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าจากประชาชน 11,369 คน พบว่า ประชาชนในจังหวัดที่พบผู้เสียชีวิต หรือพบสุนัขบ้า ร้อยละ 60 คิดว่า โรคพิษสุนัขบ้าสามารถรักษาให้หายได้, ร้อยละ 34 ไม่ทราบว่าหากฉีดวัคซีนไม่ครบชุด ไม่ตรงตามกำหนดนัด อาจตายได้ถ้าสุนัขที่มากัดเป็นสุนัขบ้า และร้อยละ 32 ไม่ทราบว่า การล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่หลายๆ ครั้ง และทายาเบตาดีน ช่วยลดเชื้อที่บาดแผลได้
รมว.สาธารณสุข ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด เร่งให้ความรู้ที่ถูกต้อง แก่ประชาชน เน้นการสร้างความตระหนักในการนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และผู้ถูกกัด หรือข่วนต้องฉีดวัคซีนให้ครบเพื่อป้องกันการเสียชีวิต









