
ประเด็นคือ – พี่สาวปุ๊กปิ๊กยัน เรื่องทั้งหมดที่อดีตทหารพรานพิการพูดไม่ใช่ความจริง ชอบอ้างเป็นสามีปุ๊กปิ๊ก ทั้งที่ตนและน้องช่วยชายพิการมาตลอดเพราะสงสาร วอนสังคมตรวจสอบก่อนประณาม
จากกรณี นายพงษ์ศักดิ์ ใจบุญ อายุ 48 ปี ชาวตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ หนุ่มพิการและเป็นอดีตทหารพราน 3 จังหวัดชายแดนใต้ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ว่า ได้ถูกแฟน คือ นางสาวปุ๊กปิ๊ก หรือฝน อายุ 35 ปี จำชื่อจริงและนามสกุลไม่ได้ ที่แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไปแจ้งว่าตนเสียชีวิตแล้ว และทำเรื่องเพื่อขอรับเงินสวัสดิการจากทางการไปเป็นจำนวน 4.5 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อย่างกับหนังคนละม้วน !
.
พี่สาวปุ๊กปิ๊ก สาวที่อดีตทหารพรานพิการอ้างว่าเป็นภรรยาที่กุเรื่องหลอกว่าตนตายแล้วฮุบเงิน 4.5 ล้าน ยืนยัน เรื่องทั้งหมดที่อดีตทหารพรานพิการพูดไม่ใช่ความจริง ชอบอ้างเป็นสามีปุ๊กปิ๊ก ทั้งที่ตนและน้องช่วยชายพิการมาตลอดเพราะสงสาร วอนสังคมตรวจสอบก่อนประณาม
.
จากกรณี นายพงษ์ศักดิ์ ใจบุญ อายุ 48 ปี ชาวตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ หนุ่มพิการและเป็นอดีตทหารพราน 3 จังหวัดชายแดนใต้ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ว่า ได้ถูกแฟน คือ นางสาวปุ๊กปิ๊ก หรือฝน อายุ 35 ปี จำชื่อจริงและนามสกุลไม่ได้ ที่แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไปแจ้งว่าตนเสียชีวิตแล้ว และทำเรื่องเพื่อขอรับเงินสวัสดิการจากทางการไปเป็นจำนวน 4.5 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
.
ล่าสุดวันนี้ (11 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เพื่อตรวจสอบนางสาวปุ๊กปิ๊ก บุคคลที่นายพงษ์ศักดิ์ซึ่งเป็นทหารพรานได้กล่าวอ้างว่าเป็นแฟนสาวที่หลอกเงินตนเองไปกว่า 4.5 ล้านบาท โดยใช้วิธีแจ้งว่าสามีเสียชีวิตนั้น ผู้สื่อข่าวพบว่านางสาวปุ๊กปิ๊กได้อาศัยอยู่กับพี่สาวที่ทำร้านเสริมสวย ชื่อ โรส ซึ่งอยู่บริเวณสี่แยกวงเวียนหน้าสถานีรถไฟปะทิว
.
ทราบชื่อพี่สาวภายหลังคือ นางสาว รจนา เชียงที อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 7 ตำบลบางสน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร โดยนางสาวรจนากำลังทำเล็บให้กับลูกค้าอยู่
.
จากการสอบถาม นางสาวรจนา เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวตนเองทราบมานานแล้วว่า ชายพิการคนดังกล่าวมักนำไปพูดกับคนอื่นๆ ว่าเป็นสามีของปุ๊กปิ๊ก ซึ่งเป็นน้องสาวตน อยากบอกว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง และสร้างความเสื่อมเสียให้กับครอบครัวตนเป็นอย่างมาก ส่วนสาเหตุที่ชายพิการคนดังกล่าวจะไปพูดเพื่อวัตถุประสงค์อะไรนั้นไม่ทราบ เพราะที่ผ่านมาตนเองและน้องปุ๊กปิ๊กสงสาร เห็นว่าเป็นคนพิการ อาศัยหลับนอนที่สถานีรถไฟ ก็ช่วยเหลือจัดข้าวปลาอาหารให้กินอยู่บ่อยครั้ง จนบางครั้งชายพิการคนนี้ยังเคยมาที่ร้านเพื่อขอข้าวกิน ซึ่งตนก็จัดการให้เพราะต้องการช่วยเหลือ ทำบุญให้ผู้ด้อยโอกาส แต่ไม่คิดว่าผลบุญที่ทำไปกลับสะท้อนในสิ่งที่ไม่ดีมายังครอบครัวตนเพราะคนคนนี้
.
นางสาวรจนา ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องเงินเรื่องทองที่กล่าวหาว่าน้องสาวตนไปหลอกเอามาจากเขาตั้ง 4 – 5 ล้านบาทนั้น ถ้าเป็นจริงตนกับน้องคงสบาย ไม่ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งทำงานเก็บเล็กเก็บน้อยอยู่ในสภาพแบบนี้ อีกอย่างน้องปุ๊กปิ๊กเองก็ยังต้องอาศัยตนอยู่และต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากน้องปุ๊กปิ๊กไม่สบาย มีปัญหาทางประสาท ไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป ต้องไปหาแพทย์ตามนัดตลอด จึงอยากให้สังคมช่วยตรวจสอบก่อน ก่อนที่จะประณามว่าเป็นครอบครัวที่ไม่ดี หลอกลวงคนพิการ ดังที่เป็นข่าวออกไปโพสต์โดย Workpoint News – ข่าวเวิร์คพอยท์ บน 11 ธันวาคม 2017
ล่าสุดวันนี้ (11 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เพื่อตรวจสอบนางสาวปุ๊กปิ๊ก บุคคลที่นายพงษ์ศักดิ์ซึ่งเป็นทหารพรานได้กล่าวอ้างว่าเป็นแฟนสาวที่หลอกเงินตนเองไปกว่า 4.5 ล้านบาท โดยใช้วิธีแจ้งว่าสามีเสียชีวิตนั้น ผู้สื่อข่าวพบว่านางสาวปุ๊กปิ๊กได้อาศัยอยู่กับพี่สาวที่ทำร้านเสริมสวย ชื่อ โรส ซึ่งอยู่บริเวณสี่แยกวงเวียนหน้าสถานีรถไฟปะทิว
ทราบชื่อพี่สาวภายหลังคือ นางสาว รจนา เชียงที อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 7 ตำบลบางสน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร โดยนางสาวรจนากำลังทำเล็บให้กับลูกค้าอยู่

จากการสอบถาม นางสาวรจนา เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวตนเองทราบมานานแล้วว่า ชายพิการคนดังกล่าวมักนำไปพูดกับคนอื่นๆ ว่าเป็นสามีของปุ๊กปิ๊ก ซึ่งเป็นน้องสาวตน อยากบอกว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง และสร้างความเสื่อมเสียให้กับครอบครัวตนเป็นอย่างมาก ส่วนสาเหตุที่ชายพิการคนดังกล่าวจะไปพูดเพื่อวัตถุประสงค์อะไรนั้นไม่ทราบ เพราะที่ผ่านมาตนเองและน้องปุ๊กปิ๊กสงสาร เห็นว่าเป็นคนพิการ อาศัยหลับนอนที่สถานีรถไฟ ก็ช่วยเหลือจัดข้าวปลาอาหารให้กินอยู่บ่อยครั้ง จนบางครั้งชายพิการคนนี้ยังเคยมาที่ร้านเพื่อขอข้าวกิน ซึ่งตนก็จัดการให้เพราะต้องการช่วยเหลือ ทำบุญให้ผู้ด้อยโอกาส แต่ไม่คิดว่าผลบุญที่ทำไปกลับสะท้อนในสิ่งที่ไม่ดีมายังครอบครัวตนเพราะคนคนนี้
นางสาวรจนา ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องเงินเรื่องทองที่กล่าวหาว่าน้องสาวตนไปหลอกเอามาจากเขาตั้ง 4 – 5 ล้านบาทนั้น ถ้าเป็นจริงตนกับน้องคงสบาย ไม่ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งทำงานเก็บเล็กเก็บน้อยอยู่ในสภาพแบบนี้ อีกอย่างน้องปุ๊กปิ๊กเองก็ยังต้องอาศัยตนอยู่และต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากน้องปุ๊กปิ๊กไม่สบาย มีปัญหาทางประสาท ไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป ต้องไปหาแพทย์ตามนัดตลอด จึงอยากให้สังคมช่วยตรวจสอบก่อน ก่อนที่จะประณามว่าเป็นครอบครัวที่ไม่ดี หลอกลวงคนพิการ ดังที่เป็นข่าวออกไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: อดีตทหารพราน โดนระเบิดจนพิการ แจ้งจับภรรยา กุเรื่องว่าตาย ฮุบเงิน 4.5 ล้าน หนีตามสามีใหม่









