พ่อแม่ขอความเป็นธรรม ลูกชายถูกซ้อมคดีไม่คืบหน้า

พ่อแม่ขอความเป็นธรรม ลูกชายถูกซ้อมคดีไม่คืบหน้า

ในประเทศ

นางนวรัตน์ ปานเพ็ชร์ (ซ้าย) และ นายภาณุ ปานเพ็ชร์ (กลาง) พ่อแม่ผู้เสียหาย

พ่อแม่ร้องทุกข์หลังลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บหลายที่ โดยเข้าแจ้งความแล้วตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. แต่ไม่คืบหน้าจนต้องสืบข้อมูลเอง

วันที่ 17 ก.ค. 61 นายภาณุ  ปานเพ็ชร์ อายุ 54 ปี และนางนวรัตน์  ปานเพ็ชร์ อายุ 44 ปี สามีภรรยาเดินทางเข้าร้องทุกข์กับสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรมพร้อมเอกสารหลักฐานสำคัญเป็นใบบันทึกแจ้งความของ สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์ หลังลูกชายคือนายพงศธร ปานเพ็ชร์ อายุ 21 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นชายหลายคนรุมทำร้ายขณะกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก จนดั้งจมูกหัก กระดูกร้าว ใบหน้ามีรอยเขียวฟกช้ำ และเจ็บปวดทั่วร่างกาย

https://youtube.com/watch?v=KQUukLHr5Bs

ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งไว้ที่สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จนต้องพยายามรวบรวมหลักฐานด้วยตนเอง และหวั่นเกรงเนื่องจากหนึ่งในวัยรุ่นดังกล่าวเป็นลูกชายของคนมีสีอีกด้วย จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน

ด้านนายภาณุ พ่อของผู้บาดเจ็บเล่าว่า บุตรชายได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเมืองพิษณุโลก กับกลุ่มเพื่อนอีก 8 คน และได้ไปมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งในห้องน้ำ แต่ไม่มีการใช้ความรุนแรง จนกระทั่งเวลา 02.00 น. ขณะกำลังกลับที่พักเพื่อนสนิทในกลุ่มของลูกชายถูกวัยรุ่นคู่อริกว่า 10 คน ที่เขม่นกันในห้องน้ำมารุมชกต่อย ซึ่งลูกชายตนได้เห็นเข้าพอดีจึงจอดรถจักรยานยนต์ลงไปช่วยเหลือ แต่กลับถูกวัยรุ่นทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอม

สภาพใบหน้าของนายพงศธร ปานเพ็ชร์

ต่อมาทางครอบครัวจึงได้ไปแจ้งความแต่เรื่องกลับเงียบไป จึงเข้าร้องทุกข์กับสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย เพราะทราบมาว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมทำร้ายร่างกายนั้นกำลังเรียนหนังสืออยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน อีกทั้งยังคณะเดียวกัน หากเปิดเทอมแล้วพบหน้ากันโดยบังเอิญอาจจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันขึ้นได้ พร้อมขอยืนยันว่าลูกชายเป็นเด็กกิจกรรมไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร

ทางด้านตำรวจสภ.เมืองพิษณุโลก เผยว่า คดีนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างทำการสืบสวนและเชิญตัวผู้เสียหายคือนายพงศธร ปานเพ็ชร์ มาให้ปากคำเบื้องต้นแล้ว เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียหายไม่สามารถจดจำใบหน้าของผู้ก่อเหตุได้ พร้อมประสานให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว และมีการออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยในคลิปวงจรปิดมาพบแล้วโดยเบื้องต้นให้การปฏิเสธ ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุตัวจริงเพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

 

 

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง