
ภรรยาของนายฮาคีม อัล-อาไรบี นักฟุตบอลบาห์เรน ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ช่วยเหลือสามีของตนเอง โดยในวันนี้ทนายความส่วนตัวของนายฮาคีม ได้นำจดหมายฉบับดังกล่าวไปยื่นที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลแล้ว
นับถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่นายฮาคีม อัล-อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ถูกทางการตัวกักตัวคุมขังอยู่ โดยนายฮาคีมถูกเจ้าหน้าที่ไทยคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตามหมายจับแดงของตำรวจสากล (Interpol) ในวันที่ 28 พ.ย. ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ต่อมาตำรวจสากลยกเลิกหมายจับแดงดังกล่าว เนื่องจากความจริงแล้วตำรวจสากลไม่สามารถออกหมายจับแดงดังกล่าวได้ เนื่องจากนายฮาคีมได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยจากประเทศออสเตรเลียแล้ว
กระนั้นก็ตาม หลังจากที่หมายแดงดังกล่าวถูกยกเลิก แต่ทางการไทยยังคงกักตัวนายฮาคีมไว้ และในขณะนี้อยู่ในกระบวนการตัดสินของศาล ว่าจะส่งตัวนายฮาคีมกลับประเทศบาห์เรนหรือไม่ หรือจะอนุญาตให้นายฮาคีมเดินทางกลับออสเตรเลียที่เขามีสถานะผู้ลี้ภัยอยู่แทน

ในวันนี้ ทางด้านภรรยาของนายฮาคีม จึงได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกร้องให้ช่วยเหลือสามี และในเวลาประมาณบ่าย 3 โมงวันนี้ คุณณัฐาศิริ เบิร์กแมน ทนายความส่วนตัวของนายฮาคีม ได้นำจดหมายฉบับดังกล่าวไปยื่นที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลแล้ว
สำหรับเนื้อความในจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าว มีดังนี้
“เรียน นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์
จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกี่ยวกับสามีของดิฉัน ฮาคีม อัล-อาไรบี
ดิฉันเป็นภรรยาของฮาคีม อัล-อาไรบี นักฟุตบอลผู้ลี้ภัยที่ถูกทางการไทยกักตัวไว้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน ตามหมายจับแดงของตำรวจสากล แต่ก็อย่างที่คุณก็รู้ว่า ในเวลาต่อมาหมายจับดังกล่าวถูกถอนออกไป แต่สามีของดิฉันกลับยังคงถูกกักตัวและอาจถูกส่งกลับบาห์เรน
พวกเราเพิ่งจะแต่งงานกัน และสามีของดิฉันอยากที่จะทำอะไรที่พิเศษให้ สามีและตัวดิฉันจึงได้เดินทางมาประเทศไทย เพราะเราคิดว่าประเทศไทยน่าจะเป็นสถานที่ฮันนีมูนสุดสมบูรณ์แบบ เราเดินทางมาด้วยกันและตื่นเต้นที่จะได้มาประเทศไทย แต่สิ่งที่เราต้องพบกลับเป็นการถูกคุมขัง และคำขู่ว่าสามีของดิฉันอาจจะถูกส่งกลับไปบาห์เรนซึ่งชีวิตของเขาจะอยู่ในอันตรายแน่
ดิฉันอยู่กับสามีตลอด 10 วันแรกที่เขาถูกกักตัว คุณคงจินตนาการไม่ออกถึงความปวดร้าว ความกลัว และความหวั่นวิตกที่เราทั้งคู่รู้สึกขณะถูกกักตัว เราไม่มีภาษาร่วมที่จะสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ไทย ไม่มีทนายที่จะเป็นตัวแทนเรา และก็เป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะเข้าใจฝันร้ายที่อยู่ตรงหน้านี้ ในที่สุดฉันก็ต้องทิ้งสามีและเดินทางกลับออสเตรเลียเพียงลำพัง ฉันไม่มีครอบครัวที่นี่ อีกทั้งยังต้องรอแสงแห่งความหวังว่าสามีฉันจะได้กลับบ้านอย่างหวาดหวั่น
สามีของดิฉันหนีออกจากบาห์เรนเพราะเขาถูกตัดสินลงโทษ ในปี 2012 สามีของดิฉันถูกเจ้าหน้าที่บาห์เรนคุมขัง เขาถูกทรมานและถูกขู่เอาชีวิต เขาถูกฟ้องอย่างไม่เป็นธรรมและถูกพิพากษาบนพื้นฐานของกิจกรรมทางการเมืองที่มีผู้อ้างว่าเขาทำ ทั้งที่จริงๆ แล้วในช่วงเวลาของคำกล่าวหาอ้างนั้น เขากำลังแข่งฟุตบอลอยู่ สามีของดิฉันต้องหนีออกจากบาห์เรนในที่สุด เขาลี้ภัยไปออสเตรเลียในปี 2014 และได้รับการรับรองให้เป็นผู้ลี้ภัยแล้ว
หมายจับแดงอันนั้นของตำรวจสากลละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชน รวมถึงละเมิดกฎและระเบียบของตำรวจสากลเอง ที่ห้ามไม่ให้มีการออกหมายแดงเพื่อส่งใครก็ตามกลับไปยังประเทศที่เขาเพิ่งลี้ภัยมา เมื่อหมายจับแดงดังกล่าวถูกยกเลิก เราก็หวังจะได้รับอนุญาตให้กลับออสเตรเลีย แต่กลับกลายเป็นว่าเราต้องขึ้นศาลแทน และตอนนี้ก็กำลังรอคำตัดสินสุดท้ายว่าเขาจะถูกส่งตัวกลับบาห์เรนหรือไม่ นี่คือการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับไปเจออันตราย และมันก็ผิดกฎหมายหลักสิทธิมนุษยชน เพราะว่ามันจะเป็นการส่งเขากลับไปยังประเทศที่เขาหนีลี้ภัยมา เขาจะกลับไปเจอการคุมขัง การทรมาน และกระทั่งความตาย โปรดช่วยสามีของดิฉันด้วย ฉันไม่อยากเสียเขาไป
ฉันเห็นการกระทำที่น่ายกย่องของประเทศไทยในเรื่องที่คล้ายกันและเกิดขึ้นไม่นานมานี้ในกรณีของ ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด ผู้ซึ่งหนีจากซาอุดิอาระเบียมายังประเทศไทย ในตอนนั้น เจ้าหน้าที่ของคุณยืนยันว่าจะไม่ส่งใครกลับไปหากเขาจะถูกฆ่า เจ้าหน้าที่ไทยให้การสนับสนุนและปกป้องราฮาฟ และอนุญาตให้เธอเดินทางไปแคนาดา ฉันเพียงหวังว่าสิ่งเดียวกันจะเกิดขึ้นกับสามี นั่นคือการได้รับอนุญาตให้กลับไปออสเตรเลีย
ฉันกลัวเกี่ยวกับอนาคตและชีวิตของสามีดิฉัน อนาคตของเขาอยู่ในมือคุณ โปรดช่วยให้สามีดิฉันได้กลับบ้านด้วย ฉันกลัวเหลือเกินว่าคำพิพากษาสุดท้ายให้ส่งตัวเขากลับจะมีขึ้นในไม่กี่วันนี้ ฉันขอมอบความเชื่อใจในตัวคุณเป็นการส่วนตัว เชื่อมั่นในความสามารถของคุณในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และในฐานะที่คุณเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมนานาชาติ โปรดช่วยสามีฉันด้วย
ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านจดหมายของฉัน และฉันหวังว่าจะได้ยินคำตอบจากคุณ
ภรรยาของฮาคีม”









