ความคืบหน้า กรณีชราชราวัย 73 ปี ยิงดับ 2 ศพ ก่อนหลบหนีไป ล่าสุดได้เข้ามอบตัวเเล้ว จนท.นำตัวไปทำเเผนประกอบคำรับสารภาพ
จากเหตุการณ์ที่นายซ้ง แซ่ตั้ง อายุ 73 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ก่อเหตุยิงกรอกปากนางบัวผัน มะโมทะนัง อายุ 55 ปี แม่ค้าขายส้มตำ ซึ่งเป็นน้องสาวของภรรยานายซ้ง 2 นัด และ ยิงนายจักรพันธ์ สื่อสุวรรณ อายุ 33 ปี ลูกเขยของภรรยาที่บริเวณลำตัวอีก 2 นัด ทั้งคู่เสียชีวิตบริเวณร้านขายส้มตำ ไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 2 ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา
จากการกดดันติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ทำให้นายซ้ง มือปืน ทนแรงกดดันไม่ไหว จึงได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผ่านทางพระลูกวัดรูปหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรด่านแม่แฉลบ ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี จากนั้นจึงได้มีการติดต่อส่งมอบตัวนายซ้งมายัง สภ.บ้านแพ้ว พื้นที่เกิดเหตุเมื่อคืนวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 26 ก.ค. 61 พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ก็ได้เดินทางมาที่ สภ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เพื่อติดตามผลการสืบสวนและสอบสวนนายซ้ง โดยมี พ.ต.อ.สาโรจน์ รอดมณี ผกก.สภ.บ้านแพ้ว , พ.ต.อ.พันธุ์ฤทธิ์ ทิพยาธรจ์ ผกก. (สอบสวน) สภ.บ้านแพ้ว และ ร.ต.ท.ปริวัชร์ เพชรรัตน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมทำการสอบสวนผู้ต้องหารายนี้
โดยมีของกลางเป็นทั้งรถกระบะโตโยต้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ภ – 1855 นครปฐม สภาพเก่า กับ อาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง ที่ตรวจยึดไว้ได้
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ใจจริงของตนนั้น ตั้งใจจะยิงอีกคนหนึ่งที่เป็นสามีของนางบัวผัน มะโมทะนัง น้องเมียที่เสียชีวิต แต่เมื่อมาที่ร้านแล้วไม่เจอ ประกอบกับมามีปากเสียงกับนางทองขาล มะโมทะนัง อายุ 59 ปี ภรรยาอีก แล้วผู้ตายทั้งสองคนเข้ามาห้าม
ซึ่งผู้ตายนั้นก็เป็นคนที่ทำให้ตนเกิดความไม่พอใจอยู่แล้ว เพราะตนเชื่อมั่นว่า 2 คนนี้ มีส่วนทำให้ครอบครัวของตนกับนางทองขาลต้องแตกแยกกัน โดยจะคอยพูดจายุยงให้นางทองขาล ซึ่งเป็นภรรยาอีกคนของตน ที่อยู่กินด้วยกันมา 10 กว่าปีนั้นขอเลิกรากัน ทั้งๆ ที่ตนเองรักนางทองขาลมาก
อีกทั้งนางบัวผันยังจะมาขอร้านขายส้มตำที่ตนสร้างให้นางทองขาลไว้ทำมาหากินไปเป็นของตัวเองอีก ด้วยความโกรธแค้นจึงลงมือยิงทั้ง 2 คนเสียชีวิต จากนั้นจึงขับรถกระบะหลบหนีไป โดยได้นำไปจอดทิ้งไว้ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี แล้วก็ไปขึ้นรถโดยสารประจำทาง หนีไปที่วัดอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี
ซึ่งทางพระที่ตนเคารพนับถือได้บอกให้ตนเข้ามอบตัวสู้คดี และตนก็ต้องการแบบนั้นเหมือนกัน จึงได้ติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านแม่แฉลบ เพื่อให้ช่วยประสานกับ สภ.บ้านแพ้ว ในการเข้ามอบตัวต่อไป
ซึ่งตนยอมรับว่า ทนไม่ได้ที่ถูกเด็กรุ่นลูกรุ่นหลานมาดูหมิ่นศักดิ์ศรี ด้วยการยุให้ครอบครัวของตนแตกแยก แล้วภรรยาของตนก็เชื่อทางน้องเมียกับลูกๆ ด้วย จึงทำให้โกรธแค้นหนักมากขึ้น
ขณะที่ พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ก็เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนจริง แต่เป้าหมายหลักนั้น เป็นอีกคนหนึ่งที่มีปัญหากันมานานเกือบเดือน เเต่ไม่อยู่ในวันเกิดเหตุ ส่วนปมประเด็นปัญหาที่สำคัญก็คือ มาจากปัญหาในครอบครัวนั่นเอง
ทั้งนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำแล้ว ก็นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ซึ่งก็มีไทยมุงมาเฝ้ารอดูการทำแผนจำนวนมาก แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
และในระหว่างที่มีการสอบปากคำ กับการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ทางนายซ้งก็ได้มีคำร้องขอมาทางผู้สื่อข่าวว่า ขอให้ช่วยแก้ข่าวให้ลุงด้วย อย่าใช้คำว่า “เฒ่าโหด” เพราะพอได้ฟังแล้วรู้สึกว่าตนเองโหดร้ายเกินไป ทั้งๆ ที่ใจจริงแล้วตนเองเป็นคนใจดีมากๆ ไปถามชาวบ้านละแวกที่ตนอาศัยอยู่ได้ ดังนั้นขอให้ช่วยเรียกลุงว่า “เฒ่าใจเด็ด” จะดีกว่า น่าจะทำให้ลุงยังดูเป็นคนใจดีเหมือนเดิม ส่วนปมเหตุก็มาจาก ยอมไม่ได้ที่เด็กรุ่นลูกมาดูถูกศักดิ์ศรี
อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์: workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews
