‘มุกดาหาร’ เร่งเบี่ยงทางน้ำ หลังน้ำป่าพัด ‘ฝายห้วยบังอี่’ พังเสียหาย

‘มุกดาหาร’ เร่งเบี่ยงทางน้ำ หลังน้ำป่าพัด ‘ฝายห้วยบังอี่’ พังเสียหาย

ชลประทานมุกดาหาร ระดม จนท. นำกระสอบทรายปิดกั้นเบี่ยงทางน้ำ ไม่ให้กัดเซาะตลิ่งหลังฝายกั้นน้ำลำห้วยบังอี่ ถูกกระแสน้ำป่าพัดพังเสียหาย จากอิทธิพลของพายุเซินติญ

วันที่ 8 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานมุกดาหาร ลงพื้นที่เร่งระดมกำลังพลทั้งเจ้าหน้าที่ ชาวบ้านจิตอาสา และองค์การบริการส่วนตำบลภูวง พร้อมเครื่องจักร ทำแนวกระสอบทรายหรือบิ๊กแบ็คปิดกั้นเบี่ยงทางน้ำ เพื่อไม่ให้กระแสน้ำกัดเซาะตลิ่งที่มีความสูงประมาณ 10 เมตร ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารเรียน 2 ชั้น ของโรงเรียนบ้านบุ่ง ต.ภูวง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร เพียงประมาณ 20 เมตร หลังจากที่ฝายกั้นน้ำลำห้วยบังอี่ ในช่วงที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนถูกกระแสน้ำป่าพัดพังเสียหาย จากอิทธิพลของพายุเซินติญ เมื่อช่วงวันที่ 21-22 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา

ด้านนายองอาจ แสนอุบล วิศวกรชลประทาน ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายออกแบบส่วนวิศวกรรม สำนักงานชลประทานที่ 7 จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ฝายกั้นลำน้ำห้วยบังอี่แห่งนี้ เป็นฝายกั้นลำน้ำขนาดกลาง ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี 2545 และทางกรมชลประทานได้ถ่ายโอนให้กับท้องถิ่นเป็นผู้ดูแล แต่เนื่องด้วยช่วงปีนี้ปริมาณน้ำค่อนข้างมาก โดยปีนี้มีปริมาณฝนมากกว่าค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมมีปริมาณฝนมากกว่าค่าเฉลี่ยถึงกว่า 350 มิลลิเมตร ประกอบกับอายุการใช้งานของฝาย ทำให้ไม่สามารถรับปริมาณน้ำจำนวนมากได้ ทำให้ผนังด้านข้างฝายพังเสียหาย และน้ำได้กัดเซาะตลิ่งพังทลาย

ด้านการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ก็ได้ดำเนินการนำกระสอบทราย หรือบิ๊กแบ็ค ปิดกั้นเบี่ยงเบนทางน้ำชั่วคราว เพื่อไม่ให้ไหลมากัดเซาะตลิ่ง หากยังมีฝนตกลงมาอีก เนื่องจากอยู่ใกล้อาคารเรียนมาก ส่วนในระยะยาวก็จะได้พิจารณาเร่งดำเนินการอาจจะเป็นการก่อสร้างใหม่หรือการปรับปรุงเสริมต่อจากอาคารเดิม ต้องพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากฝายแห่งนี้มีประชาชนใช้ประโยชน์ผันน้ำขึ้นมาทำการเกษตรเป็นจำนวนมาก หากฝายแห่งนี้ไม่สามารถกั้นน้ำได้ ประชาชนแถบนี้ก็จะประสบปัญหาภัยแล้งอย่างแน่นอน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง