
ประเด็นคือ – ย้อนรอยเส้นทางเสด็จ ในหลวง ร.9 เสด็จข้ามสะพานไม้ห้วยโท กระทั่งเกิดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำห้วยโท อ่างเก็บน้ำห้วยยาง ที่นำความอุดมสมบูรณ์อยู่ดีกินดี ให้ชีวิตใหม่เกษตรกร
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม นายประมวล จินตนา ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม พร้อมด้วย นายปรีชา สะอิ้งทอง ปลัดอาวุโสอำเภอนาแก นายวีระพงษ์ วงศ์ศรียา อายุ 52 ปี กำนันตำบลหนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม ร่วมกับผู้นำชุมชนท้องถิ่น นำภาพประวัติศาสตร์สำคัญ เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิภลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ออกมาเผยแพร่ผ่านสื่อ
พร้อมนำลงพื้นที่ย้อนรอยเส้นทางเสด็จ ในหลวงรัชการที่ 9 เสด็จพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตลอดจนข้าราชบริพาร ตรวจเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่บ้านโพนงาม ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 27 ได้สร้างความซาบซึ้งให้กับชาวนาแก จ.นครพนม เป็นอย่างมาก ซึ่งพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินข้ามสะพานไม้ลำเลียงเก่าข้ามลำห้วยโท ในพื้นที่ บ้านโพนงาม ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม

นายประมวลเปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม ถือเป็นอีกพื้นที่สำคัญ ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิภลอดุลยเดช ที่เคยเสด็จปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ตรวจเยี่ยมดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกร จากที่เคยเดือดร้อนขาดแคลนน้ำทำการเกษตร ไม่มีงานไม่มีอาชีพ จนกระทั่งเกิดโครงการอ่างเก็บน้ำในพระราชดำริ ห้วยโท ห้วยยางขึ้น เป็นการให้ชีวิตใหม่ชาวบ้านได้ทำการเกษตร เกิดความอุดมสมบูรณ์ โดยได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 32 ปัจจุบันกลายเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรกว่า 10,000 ไร่
ทั้งนี้ในโอกาสใกล้วันสำคัญ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิภลอดุลยเดช ตนและตัวแทนชาวบ้าน จึงได้นำภาพประวัติศาสตร์การเสด็จพระราชดำเนินของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเผยแพร่ผ่านสื่อ พร้อมนำลงพื้นที่ ติดตามย้อนรอยเส้นทางเสด็จ โดยเฉพาะภาพพระองค์เสด็จพระราชดำเนินผ่านสะพานข้ามห้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพหายาก สร้างความซาบซึ้งแก่ชาว อ.นาแก จ.นครพนม รวมถึงพสกนิกรชาวไทย

ด้าน นางลอน วงศ์ศรียา อายุ 55 ปี เกษตรกร ชาวบ้านดงขวาง ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม กล่าวว่า “เมื่อมีคนพูดถึงห้วยโท ห้วยแคน ยอมรับว่าน้ำตาไหล สุดซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชการที่ 9 จำได้ว่าในอดีตพื้นที่หมู่บ้านแถบนี้แห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำ ชาวบ้านยากจนไม่มีรายได้ ไม่มีข้าวกิน เพราะทำนาไม่ได้
“ในช่วงปี 27 ในหลวงเสด็จ แต่ตนไม่มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จ ได้เพียงฟังคำบอกเล่าของพ่อแม่ว่า พระองค์ท่านเสด็จมาเยี่ยมชาวบ้าน มาวางแผนพัฒนาสร้างอ่างเก็บน้ำในโครงการพระราชดำริ จนกระทั่งปี 32 ได้สร้างแล้วเสร็จ
“ทำให้ชาวบ้านแถบนี้เสมือนได้ชีวิตใหม่ นำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ ทำไร่ทำนา ได้ผลผลิตดี มีอาชีพ ทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี ไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น นึกย้อนไปหากไม่ใช่พระบารมี พระปรีชาสามารถของพระองค์ คงไม่มีวันนี้ ยิ่งได้เห็นภาพในหลวงเสด็จข้ามสะพานไม้ ยิ่งซาบซึ้งน้ำตาไหล”









