การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดพอร์ตที่ดินใหม่เตรียมเปิดประมูลให้เช่ากว่า 3.8 หมื่นไร่ จำนวน 1.28 หมื่นสัญญา เพื่อกลบหนี้ 1.67 แสนล้าน ตั้งเป้า 10 ปีล้างหนี้หมด ลบภาพองค์กรขาดทุน
กระทรวงคมนาคมเร่งรัด ให้ รฟท.เคลียร์ภาระหนี้สะสมที่มีมากกว่า 1.67 แสนล้านบาท โดยนำที่ดินในมือออกประมูลให้เช่าเพื่อสร้างรายได้ เนื่องจากที่ดินหลายแปลงของ รฟท. มีอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า และตามหัวเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงมีโครงการสิ่งปลูกสร้างเดิมที่มีศักยภาพอยู่แล้ว สามารถนำมาพัฒนาเพื่อเปิดประมูลใหม่ได้
รฟท. ได้สั่งให้บริษัทลูกอย่างบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เป็นผู้ดำเนินการหลัก โดยมีจะเข้ามาบริหารจัดการที่ดินและสินทรัพย์ของ รฟท. โดยจะทบทวนและจัดทำผังแม่บทเพื่อพัฒนาพื้นที่ให้มีความหลากหลายและคล่องตัวยิ่งขึ้น ก่อนเร่งหาผู้เช่าบริษัทเอกชนตามลำดับต่อไป
โดยเบื้องต้นคาดการณ์ว่า จะสามารถสร้างรายได้ 1.25 แสนล้านบาท ภายในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งน่าจะถึงจุดคุ้มทุน ส่วนในระยะยาว 30 ปี จะโกยรายได้สูงถึง 6.3 แสนล้านบาท
[ปัดฝุ่นที่ดินและสิ่งก่อสร้างเดิม พร้อมเร่งพัฒนาพื้นที่ใหม่]
สำหรับแปลงที่ดินที่ทาง รฟท. ได้เตรียมพัฒนาล่าสุด คือที่ดินบริเวณบ้านพักพนักงานย่านสถานีธนบุรีจำนวน 21 ไร่ และสถานีธนบุรี บริเวณตลาดศาลาน้ำร้อน อีกประมาณ 2.5 หมื่นตารางเมตร เนื่องจากพื้นที่นี้มีศักยภาพ ใกล้โรงพยาบาลศิริราช และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มพาดผ่านด้วย สามารถสร้างมูลค่าได้อีกมาก
นอกจากนี้ยังมีที่ดินและอาคารในต่างจังหวัด อย่างโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน พร้อมที่ดินแปลงสถานีรถไฟหัวหินสนามกอล์ฟ จำนวน 500 ไร่ และโรงแรมอีก 3 ไร่ ที่หมดอายุสัญญาไปแล้ว จะถูกนำมาพัฒนาใหม่ดึงดูดกลุ่มทุนในรูปแบบโครงการมิกซ์ยูส มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน รฟท. กำลังอยู่ในขั้นตอนของการส่งมอบที่ดินให้บริษัท เอสอาร์ที ศึกษาทบทวนแผนทั้งหมดอีกครั้ง โดยจะมีการโอนสินทรัพย์โครงการขนาดใหญ่ที่ทำสัญญาไว้แล้ว 75 สัญญา มูลค่า 1,645 ล้านบาท ไม่เกินสิ้นปี 2564 นี้ และที่เหลืออีกกว่า 12,839 สัญญา มูลค่า 3,166 ล้านบาท ภายในปี 2565
อีกหนึ่งพื้นที่น่าจับตา คือสถานีกลางบางซื่อ โดยความคืบหน้าในการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์และป้ายโฆษณา บริเวณสถานีกลางบางซื่อและสถานีอื่นๆ ของรถไฟฟ้าสายสีแดงอีก 12 สถานี กำลังอยู่ในขั้นตอนจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับสูตรคำนวณผลตอบแทน
จากนั้นจะเสนอบอร์ดพิจารณาเห็นชอบ และออกประกาศเอกสารประกวดราคาเพื่อหาบริษัทเอกชนตามลำดับต่อไป
ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ผู้ชนะการประมูลในช่วงต้นปี 2565 โดย รฟท. จะเร่งรัดเอกชนเข้าพัฒนาพื้นที่โดยเร็วที่สุด
ในระยะแรกจะเน้นพัฒนาร้านอาหารรองรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงก่อน ตามด้วยพื้นที่ร้านค้าจำหน่ายสินค้าและบริการอื่นๆ เพื่อยกระดับสถานีกลางบางซื่อให้มีบริการต่างๆ ครบครัน เทียบเท่าพื้นที่บริการภายในสนามบิน
ส่วนทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีทอง ทาง รฟท. ก็มีแผนจะพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคตด้วย นั่นคือบริเวณตลาดคลองสานพลาซ่าและท่าเรือข้ามฟากคลองสาน โดยจะพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เช่า 30 ปี ดึงดูดเอกชนเข้าพื้นที่ ด้วยความได้เปรียบอยู่ใกล้ศูนย์การค้าใหญ่อย่างไอคอนสยาม และมีโครงข่ายการเดินทางที่สะดวกสบาย
นอกจากนี้จะมีการต่อสัญญาที่ดินและอาคารที่กำลังจะหมดสัญญาเร็วๆ นี้ ในอีกหลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโซนรัชดาภิเษกเชื่อมถนนพระราม 9 อย่างที่ดินสถานบันเทิง RCA จำนวน 60 ไร่, ที่ดินอาคารอาบอบนวด โพไซดอน จำนวน 15.4 ไร่ และที่ดินในย่านรองเมือง เขตปทุมวัน ที่ตั้งของโรงแรมเดอะ ทวินทาวเวอร์ อีกจำนวน 6.53 ไร่
การพัฒนาที่ดินและโครงการก่อสร้างหลายแห่งข้างต้น จะช่วยให้การใช้ที่ดินภายใต้การดูแลของ รฟท. มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากเดิมที่ดินหลายแปลงอยู่บนทำเลที่มีความได้เปรียบอยู่แล้ว หากมีการออกแบบผังแม่บทและบริหารจัดการที่เป็นระบบมากขึ้น ก็น่าจะดึงดูดเอกชนเข้ามาประมูล เพื่อสร้างได้แก่ รฟท. ได้ไม่ยาก
