
โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตทวีวัฒนา ปรับเวลาเข้าเรียนจากปกติ เป็น 9.30 น. เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่ค่าฝุ่นละอองมักจะสูงเกินกว่ามาตรฐาน รวมถึงการปรับตัวของทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง ที่ต่างตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
วันที่ 29 ม.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทุกเช้าผู้ปกครองโรงเรียนเพลินพัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ จะพาลูกหลานมาส่งช่วง 9.30 น. แม้จะช้าไปจากเดิมและอาจทำให้ผู้ปกครองไปทำงานสาย
แต่ผู้ปกครองก็เห็นว่าเป็นมาตรการที่ดีในการป้องกันผลกระทบสุขภาพ จากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของทางโรงเรียน ควบคู่ไปกับการปรับการเรียนการสอนให้เด็กกลับบ้านก่อนเวลา ในวันแรกของสัปดาห์ที่มักมีการจราจรหนาแน่น

สิติมา มุธาทิพย์ / ผู้ปกครอง
สิติมา มุธาทิพย์ หนึ่งในผู้ปกครอง เผยว่า ผู้ปกครองพื้นฐานก็เป็นห่วงลูกอยู่แล้วจบ ถ้าจะให้ยั่งยืนอยากให้รัฐบาลศึกษาผลกระทบอย่างแท้จริง
ทางโรงเรียนยังมีการปรับเกณฑ์ ค่าpm2.5 ในระดับไม่ส่งกระทบต่อสุขภาพ ให้อยู่ที่ไม่เกิน 40 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอ้างอิงจากรายงานวิชาการต่างประเทศ ไม่ใช่ 50 ไมโครกรับต่อลูกบาศก์เมตร ตามมาตรฐานทั่วไปของกรมควบคุมมลพิษ โดยเน้นที่การให้ความรู้ และป้องกันตนเองอย่างไม่ตื่นตระหนก

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร / ที่ปรึกษาโรงเรียนเพลินพัฒนา
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่ปรึกษาโรงเรียนเพลินพัฒนา เผยว่า ตั้งแต่ปี 2554กรุงเทพฯจะหาอากาศที่pm 2.5 ต่ำกว่า 25 แทบไม่มี ในห้องอยู่ที่ 35 ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา
สำหรับเด็ก ๆ ที่ผู้ปกครองยังไม่สะดวกมารับกลับบ้านก่อนเวลา ก็มีการเลือกห้องที่มีเครื่องฟอกอากาศ สำหรับเด็ก ๆ ซึ่งหากดูจากเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบพกพาจะเห็นได้ชัดเจน ว่าพอเข้ามาในอาคารค่าฝุ่น pm 2.5 ลดลงเหลือ 31-35 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

นักเรียนโรงเรียนเพลินพัฒนา
แต่ที่ค่าฝุ่นลดลงอย่างเห็นได้ชัด ก็เพราะที่เครื่องปรับอากาศมีฟิลเตอร์ดักจับฝุ่นติดอยู่ของ และมีเครื่องฟอกอากาศที่ผู้ปกครองให้ทางโรงเรียนยืมใช้ ซึ่งหากอยู่ในอาคารเปิดโล่ง ค่าจะเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ชี้ให้เห็นว่า แม้จะอยู่ในอาคารก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากฝุ่น pm2.5
สำหรับนักเรียนโรงเรียนเพลินพัฒนา เผยว่า เริ่มใส่แมสทุกวันอยู่ที่โรงเรียนก็จะอยู่ในห้องจบ คอยดูแล้วก็เช็คค่าว่ามันเยอะขนาดไหน ในช่วงนี้ที่จะมีกีฬาก็จะโดนย้ายไปอีก อยากให้ออกไปเร็วๆ จะได้มีการแข่งกีฬาเหมือนเดิม

ข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า พิษของฝุ่น pm2.5 ที่เกิดขึ้นกับเด็กแรกเกิดไปจนถึง 20 ปี ทำให้เกิดการอักเสบ และระคายเคืองของปอดและถุงลม ทำให้ปอดเสื่อม สุดท้ายก็จะทำให้เกิดมะเร็งปอดคล้ายกับคนที่สูบบุหรี่ แต่สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล-ประถมศึกษา พวกเขายังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจ หลายคนเพียงต้องการได้เรียนและเล่นท่ามกลางอากาศที่ปลอดภัย










