
เจ้าหน้าที่ระดมกำลังทุกภาคส่วน เข้าช่วยเหลือชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน ที่อาศัยอยู่บนเกาะสินไห จังหวัดระนอง หลังได้รับผลกระทบจากเหตุพายุฝนพัดกระหน่ำ จนต้นไม้หักโค่น บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน
วันนี้ (9 มิ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับแจ้งว่าชาวประมงพื้นบ้าน ที่อยู่บนเกาะสินไห ม.4 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง ถูกพายุและฝนพัดกระหน่ำจนบ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จึงสั่งการให้กำลังพลทำการประสานหน่วย กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 ค่ายรัตนรังสรรค์ ทหารเรือหน่วยต่อสู้อากาศยานและรักษาชายฝั่ง ตชด.415 ฝ่ายปกครองจังหวัดระนอง (อส.) เทศบาล ต.ปากน้ำท่าเรือ เจ้าของพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น
จากการตรวจสอบ พบว่า บ้านเรือนจำนวนมากและต้นไม้ขนาดใหญ่ เสาไฟฟ้าหักโค่นได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ จึงได้ช่วยกันตัดต้นไม้ที่ล้มทับบ้าน ช่วยเรือหลังคาบ้านเสาบ้านที่ถูกแรงลมพัดจนเสียหาย
เบื้องต้น มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลังจำนวน 7 หลัง เสียหายบางส่วนจำนวน 10 หลัง ที่เหลือกำลังตรวจสอบ เนื่องจากมีบ้านเรือนประชาชนบนเกาะสินไหมากว่า 100 ครัวเรือน ชาวบ้านยังอยู่ในอาการตกใจ เพราะบางส่วนเพิ่งจะกลับจากการไปทำประมง บางส่วนเพิ่งกลับมาจาก อ.เมืองระนอง

นางสะรามะ อุเสน อยู่บ้านเลขที่ 7/3 เล่าว่า เมื่อเวลาช่วงประมาณ 03.30 น.ที่ผ่านมา ขณะตนเองเองกำลังลุกขึ้นมาเพื่อทำกับข้าวเพื่อรับประทานในช่วงเดือนถือศีลอด โดยมีลูก ๆ นอนอยู่ในบ้านอีก 2 คน จู่ ๆ มีลมพัดมาอย่างแรงพร้อมฝนที่ตกหนัก พัดอยู่ได้สักประมาณ 20 นาที ซึ่งตนเองได้พาลูกออกมาจากบ้านตั้งแต่มีลมพัดมาเพราะกลัวมากไม่เคยพบเจอ จากลมที่พัดแรงฝนตกหนักน้ำทะเลที่อยู่ด้านล่างซัดเข้ามาในบ้าน ทำให้บ้านหลังคาปลิว เสาบ้านหักตัวบ้านทรุด และบ้านของเพื่อนอีกหลายหลังก็พังเสียหายมาก เบื้องต้นคงต้องพาลูกไปนอนบ้านญาติก่อนจนกว่าจะซ่อมบ้านเสร็จ แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่เพราะบ้านพังจำนวนมาก อีกทั้งยังมีทั้งลมทั้งฝนพัดมาอย่างต่อเนื่อง
ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบและช่วยเหลือบ้านที่เสียหายทั้งหลังทั้งการเอาต้นไม้ออกจากบ้าน ทั้งการขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว ส่วนการช่วยเหลือในเบื้องต้น บ้านที่เสียหายทั้งหลังจะได้รับการช่วยเหลือหลังละจำนวน 20,000 บาท ส่วนที่เสียหายบางส่วนจะได้นำวัสดุอุปกรณ์มาทำการซ่อมแซม ซึ่งขณะกำลังตรวจสอบให้ได้ครบทั้งหมู่บ้านเพื่อที่ทางราชการจะได้สั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ลงเรือมาซ่อมให้พร้อม ๆ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ทั้งทหารบก ทหารเรือ ตชด. อส. ฝ่ายปกครองนำกำลังมาช่วยซ่อมแซมบ้าน













