ราคายางตกต่ำ! สหกรณ์ยางพารา จ.ตรัง ไม่กล้านำยางออกมาขาย เกรงขาดทุนหนัก

ราคายางตกต่ำ! สหกรณ์ยางพารา จ.ตรัง ไม่กล้านำยางออกมาขาย เกรงขาดทุนหนัก

ในประเทศ

กลุ่มสหกรณ์ยางพารา จ.ตรัง ไม่กล้านำยางพาราออกขายเกรงขาดทุนหนัก ทำให้มียางพาราค้างสต็อกกว่า 40,000 กก. มูลค่ากว่า 1.7 ล้านบาท วอนรัฐบาลช่วยพยุงราคา ด้าน กยท.ไร้วี่แววให้การช่วยเหลือ

วันที่ (11 ก.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบรรจง จีนหมั้น ผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางหนองคล้า ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ให้สัมภาษณ์พร้อมกับนำผู้สื่อข่าวตรวจสอบเตาอบยางพารา และยางแผ่นรมควันที่เก็บไว้ในสต๊อกว่า ขณะนี้ทางสหกรณ์ต้องเก็บยางแผ่นรมควันไว้ในสหกรณ์จำนวน 40,000 กก.คิดเป็นเงินประมาณ 1.7 ล้านบาท เพราะไม่กล้านำออกไปขาย นอกจากนั้น ยังนำไปฝากไว้ที่ชุมนุมสหกรณ์ยางตรังอีกประมาณ 50,000 บาท หรือประมาณกว่า 2 ล้านบาท ทั้งนี้ การนำไปฝากไว้ที่ชุมนุมสหกรณ์นั้นมีหลักเกณฑ์ว่าจะต้องฝากไว้ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ขณะนี้ฝากไปแล้วกว่า 2 เดือน ก็จะต้องนำออกขาย ไม่ว่าจะได้กำไร หรือขาดทุน เพราะไม่สามารถเก็บต่อได้ถ้าขายตอนนี้ขาดทุนหนักอย่างแน่นอน โดยขณะนี้สหกรณ์ทุกแห่งประสบชะตากรรมเดียวกันคือ จะต้องขาดทุนทุกวันๆ ละประมาณ 5,000 – 20,000 บาท ซึ่งหากขาดทุนเช่นนี้ทุกวันทำให้ต่อเดือนขาดทุนนับแสนบาท จะกระทบความอยู่รอดของสหกรณ์ทุกแห่ง

ขณะที่สหกรณ์กองทุนสวนยางหนองคล้า มีสมาชิกรวม 172 ราย ต่อวันรับซื้อน้ำยางสดได้ประมาณวันละ 13,000 กก.หรือยางแห้งประมาณ 3,500 กก. ซึ่งน้ำยางสดที่ซื้อ กิโลกรัมละ 39 บาท เอามาแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควันในราคา กิโลกรัมละ 42.82 บาท ต่างกันเพียงแค่ประมาณ 3 บาทเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ขาดทุนอย่างแน่นอน เพราะต้นทุนการผลิตอยู่ที่ กิโลกรัมละ 6 – 7 บาท ทั้งนี้ ในส่วนของสหกรณ์หนองคล้า นับจากวันที่ 1 เมษายนเป็นต้นมา ขาดทุนไปแล้วประมาณ 5 แสนบาท และแนวโน้มจะขาดทุนต่อเนื่องไปเรื่อยๆ อยากให้รัฐบาลช่วยประกันราคายาง ทั้งนี้ ปัญหาราคายางตกต่ำขณะนี้ส่วนตัวมองว่าเกิดจากปัญหาพ่อค้าคนกลางฮั้วกันซื้อยาง แต่ละวันจะหมุนเวียนกันซื้อในตลาดกลาง โดยไม่มีการแข่งขันกันประมูลราคาในตลาดกลาง ขณะที่รัฐบาลและ กยท.ไม่เข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาใดๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผู้บริหารสหกรณ์กองทุนสวนยางหลายแห่งออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงปัญหาความเดือดร้อนจากราคายางตกต่ำ ทำให้ผลประกอบการของสหกรณ์ขาดทุนสร้างความไม่พอใจให้แก่อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นอย่างมาก โดยสั่งให้ผู้บริหารสหกรณ์ดังกล่าวทำหนังสือชี้แจง โดยอ้างว่าเป็นการสร้างความเสื่อมเสีย และเกรงจะทำให้สหกรณ์ขาดความเชื่อมั่นจากสมาชิก เกรงจะกระทบสหกรณ์มากยิ่งขึ้น ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการให้ กยท.เร่งรายงานข้อมูลปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อจะหามาตรการแก้ไขปัญหาต่อไป

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง